วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ตามรอยสุสานโบราณที่คยองจู

เล่าเรื่องการเดินทางมาจะครบสิบเรื่องแล้ว ยังไม่ได้เชียนเรื่องราวเกี่ยวกับเกาหลีเลย ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาเกาหลีใต้เป็นประเทศที่ยกระดับการส่งเสริมการท่องเที่ยวจนเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ถ้าไม่มีเรื่องราวการเดินทางที่เกาหลีมาเล่าคงเชยตกเทรนด์น่าดู แต่ตั้งใจว่าถ้าจะเขียนเรื่องเกาหลีใต้ครั้งแรกจะฉีกแนวตลาด

ทัวร์ยอดนิยมเกาหลีก็คือการตามรอยซีรี่ย์รักโรแมนติก วันนี้ผมจะขอตามรอยละครเกาหลีกับเค้าบ้าง แต่เป็นการตามรอยสุสานฝังศพของตัวละครในซีรี่ย์ ให้บรรยากาศแปลกไปอีกแบบ


หนึ่งในซีรี่ย์เกาหลีที่ผมดูตั้งแต่ต้นจนจบก็คือ ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน เรื่องราวประวัติศาสตร์เกาหลีในยุคยังแบ่งแยกเป็นสามอาณาจักร ได้แก่ โกกูรยอ ชิลลา และแพ็กเจ ละครเล่าเรื่องราวการชิงไหวชิงพริบทางการเมืองและปณิธานการรวมสามอาณาจักรให้เป็นหนึ่งเดียว

ราชินีซอนต๊อกปกครองอาณาจักรชิลลาซึ่งมีเมืองหลวงอยู่ที่เมืองคยองจู (경주시) ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของคาบสมุทรเกาหลี คยองจูเป็นราชธานีโบราณที่อุดมไปด้วยโบราณสถานสำคัญผุดขึ้นทั่วเมือง จนได้รับการขนานนามว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ไร้กำแพง


เมืองคยองจูไม่ค่อยมีตึกสูง ใจกลางเมืองยังมีทุ่งนาตามสองข้างทาง อารมณ์ประมาณเหมือนเที่ยวจังหวัดอยุธยาหรือสุโขทัยบ้านเรา เราจะมาตามรอยสุสานโบราณของซีรีย์ราชินีซอนต๊อกกันที่นี่เอง


สุสานฝังศพของชิลลาเป็นเนินดินพูนครึ่งทรงกลม ดูคล้ายฮวงซุ้ยของจีนอยู่บ้าง ที่เมืองคยองจูมีสุสานของกษัตริย์และบุคคลสำคัญชิลลาเต็มเมืองไปหมด


เริ่มจากนางเอกของเรื่องคือราชินีซอนต๊อก ซึ่งปกครองชิลลาในช่วงปีค.ศ. 632-647 (600 ปีก่อนไทยสถาปนากรุงสุโขทัยเป็นราชธานี) สุสานหลวงของพระนางซอนต๊อก (경주 선덕여왕릉) เหมือนถูกปล่อยทิ้งกลางป่ากลางเขา บริเวณรอบๆไม่มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติ


ระหว่างทางมีป้ายบอกทางเป็นระยะ แรกๆเริ่มจากทางเดินปูน พอลึกๆเข้าไปหน่อยเป็นทางดินทำเอาชักไม่แน่ใจว่ามาถูกทาง เปิดให้ชมฟรีคงเพราะไม่คิดว่าจะมีคนสนใจบุกป่าฝ่าดงเข้าไปชม


ใกล้ๆกับสุสานหลวงพระนางซอนต๊อกก็มีสุสานหลวงพระเจ้าจินพยองซึ่งเป็นพระบิดาและพระราชาที่ครองราชย์ก่อนพระนางซอนต๊อก แต่สุสานอยู่ในป่าลึกเข้าไปอีกแถมป้ายบอกทางคลุมเครือจึงไม่กล้าเดินเข้าไปเพราะกลัวหลง

จากนางเอกก็มาต่อกันด้วยพระเอกของเรื่องก็คือแม่ทัพคิมยูซินซึ่งเป็นกำลังสำคัญของชิลลาในการรวมสามอาณาจักร สุสานของแม่ทัพคิมยูซิน (경주 김유신묘) กลับดูคนละอารมณ์กับสุสานพระนางซอนต๊อกเลย มีการปรับปรุงพื้นที่อาณาบริเวณปลูกต้นไม้ตกแต่งสวยงาม แถมต้องเสียตังค์เข้าชมด้วย


ตัวละครที่มีสีสรรมากที่สุดในซีรี่ย์และถือว่าเป็นคู่ปรับตัวฉกาจของพระนางซอนต๊อกก็คือพระสนมมีซิล ซึ่งมีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ แต่ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าสุสานของนางอยู่ที่ใด บางกระแสลือว่าสุสานของพระสนมมีซิลอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น

อีกตัวละครที่มีบทสำคัญในซีรี่ย์ ก็คือคิมชุนชูซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของพระนางซอนต๊อก ต่อมาภายหลังขึ้นครองราชย์ในนามพระเจ้ามูยอล ในยุคสมัยพระราชามูยอล ชิลลาสามารถรบชนะและผนวกรวมอาณาจักรแพ็กเจเข้ามา สุสานหลวงพระเจ้ามูยอล (경주 무열왕릉-태종무열왕릉비) อยู่ในละแวกใจกลางเมืองได้รับการทำนุบำรุงดีเช่นเดียวกับสุสานคิมยูซิน


ในอาณาบริเวณเดียวกับสุสานหลวงพระเจ้ามูยอล มีสุสานเนินดินติดกัน 4 ลูก เชื่อกันว่าสุสานเนินดินที่ 2 และ 3 เป็นสุสานหลวงของพระเจ้าจินฮึงและพระเจ้าจินจิ พระเจ้าจินฮึงเป็นพระราชาชิลลาที่ปรากฏในตอนแรกของซีรีย์ หลังจากพระเจ้าจินฮึงประชวรจนสวรรคต พระสนมมีซิลปลอมพระบรมราชโองการแต่งตั้งพระเจ้าจินจิโอรสคนรองของพระเจ้าจินฮึงขึ้นครองราชย์ และต่อมาพระเจ้าจินจิก็ถูกมีซิลบีบให้สละราชสมบัติให้แก่พระเจ้าจินพยองซึ่งโอรสของพระเชษฐาพระเจ้าจินจิ


ตบท้ายด้วยพระราชาชิลลาอีกพระองค์ที่เกี่ยวข้องกับการรวมสามอาณาจักรแต่ไม่ได้ปรากฏบทในละครซีรี่ย์ นั่นคือพระเจ้ามุนมูซึ่งเป็นพระโอรสของพระเจ้ามูยอล แต่ที่ต้องกล่าวถึงเพราะเป็นรัชสมัยที่ชิลลาสามารถเอาชนะโกกูรยอได้จนในที่สุดรวมสามอาณาจักรเข้าด้วยกันเบ็ดเสร็จ

สุสานหลวงของพระเจ้ามุนมู (경주 문무대왕릉) ต่างจากสุสานชิลลาทั่วไป แทนที่จะเป็นสุสานเนินดิน กลับเป็นสุสานใต้น้ำ พระเจ้ามุนมูดำริให้ฝังพระองค์ไว้ใต้น้ำ เพื่อพระองค์จะกลายร่างเป็นมังกรปกป้องชิลลา


ตัวสุสานอยู่กลางทะเลแต่ไม่ห่างจากชายหาดมากนักมีกองหินพูนไว้เป็นสัญลักษณ์ สุสานหลวงพระเจ้ามุนมูไม่ได้อยู่ในตัวเมืองคยองจู ต้องนั่งรถบัสออกไป


การเดินทางท่องเที่ยวสุสานต่างๆ
สุสานหลวงพระนางซอนต๊อก สุสานแม่ทัพคิมยูซินและสุสานหลวงพระเจ้ามูยอลอยู่ในเขตตัวเมือง มีรถบัสวิ่งบริการในเมืองจะต้องตรวจสอบสายและเส้นทางให้ดี แต่แนะนำให้นั่งแท็กซี่สะดวกกว่า


สุสานหลวงพระเจ้ามุนมูอยู่ติดทะเลฝั่งตะวันออก ต้องนั่งรถบัสสาย 150 จากท่ารถ Gyeongju Intercity Bus Terminal ในเมืองใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที ถ้าไม่แน่ใจป้ายที่ต้องลง ให้สังเกตุกองหินกลางทะเลทางฝั่งซ้ายมือของรถ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

About