วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555

10 จุดชมวิวรอบทะเลสาบซีหู

หนึ่งในทะเลสาบที่ได้รับการยกย่องว่ามีทัศนียภาพสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศจีนก็คือทะเลสาบซีหู (西湖) ที่เมืองหังโจว มณฑลเจ๋อเจียง ชาวจีนยกย่องความสวยงามดังกล่าวเปรียบเหมือนสวรรค์บนดิน ตั้งแต่อดีตกาลมีผู้ท่องเที่ยวเยี่ยมเยือนและชื่นชมทัศนียภาพงดงามหลายๆแห่งรายรอบทะเลสาบซีหูจนเป็นที่เล่าขานกันปากต่อปาก กระทั่งเป็นที่รู้จักในนาม 10 จุดชมวิวรอบทะเลสาบซีหู (西湖十景) ชื่อแต่ละจุดเขียนด้วยตัวอักษรจีนสี่ตัว ในสมัยราชวงศ์ชิง ฮ่องเต้เฉียนหลงเสด็จประพาสซีหูก็ได้ทรงอักษรลายพู่กันชื่อของแต่ละจุดชมวิวจารึกลงบนป้ายศิลาซึ่งปัจจุบันก็ตั้งอยู่ตามสถานที่แต่ละจุด


ชื่อซีหูเป็นการออกเสียงในภาษาจีนกลางแปลเป็นไทยว่าทะเลสาบตะวันตก ตัวทะเลสาบมีรูปร่างออกไปทางวงกลมมีเส้นรอบวงประมาณ 15 กิโลเมตร ความลึกเฉลี่ยประมาณสองเมตรกว่า กลางทะเลสาบมีเกาะเล็กๆอยู่สามเกาะ มีถนนเดินเท้าตัดเข้าในตัวทะเลสาบสองสายชื่อว่า Bai Causeway ทางตอนเหนือของทะเลสาบและ Su Causeway ทางฝั่งตะวันตก

ผมเคยไปหังโจวมาสองครั้ง ครั้งแรกเมื่อปี 2002 ตอนนั้นเดินทางไปเองเที่ยวที่หังโจวประมาณสามวัน ครั้งที่สองไปกับกรุ๊ปทัวร์เหยียบจีนเจ็ดเมืองในห้าวันเมื่อปี 2008 ได้แวะที่หังโจวประมาณครึ่งวัน รูปภาพส่วนใหญ่ถ่ายไว้ตั้งแต่ทริปปี 2002 ซึ่งใช้กล้องฟิล์มป๊อกแป๊ก รูปที่ถ่ายไว้ตอนนั้นสีจึงเริ่มออกเขรอะๆซัวๆไปตามกาลเวลา

เอาละ....ได้เวลามาทำความรู้จัก 10 จุดชมวิวรอบทะเลสาบซีหูทีละจุดกันแล้ว

จุดที่ 1: Three Pools Mirroring the Moon (三潭印月)

ผมเคยอ่านนวนิยายกำลังภายในจีนเล่มหนึ่งที่แปลชื่อจุดชมวิว Three Pools Mirroring the Moon ของซีหูเป็นภาษาไทยว่า สามบึงพิมพ์จันทร์ จุดชมวิวนี้จะเป็นสถูปตะเกียงศิลาสามอันตั้งอยู่กลางทะเลสาบซีหู ในคืนวันพระจันทร์เต็มดวงก็จะจุดตะเกียงดังกล่าวซึ่งแสงไฟจากตะเกียงทั้งสามดวงจะสะท้อนลงบนผิวน้ำดูเหมือนมีพระจันทร์เพิ่มขึ้นอีกสามดวง
เวลาที่ดีที่สุดสำหรับชมทัศนียภาพ: ต้องคืนวันพระจันทร์เต็มดวง ถึงจะเห็นภาพสามบึงพิมพ์จันทร์

จุดที่ 2: Spring Dawn by Su Causeway (蘇堤春曉)

Su Causeway เป็นถนนเดินเท้าที่ตัดผ่านด้านในทะเลสาบฝั่งตะวันตก ตั้งชื่อตามท่านซูตงปอที่เคยเป็นผู้ว่าหังโจวสมัยช่วงราชวงศ์ซ่งและเป็นผู้สร้างทางเดินเท้านี้ ถนนซูนี้ยาวร่วมๆ 5-6 กิโลเมตรมีสะพานหกสะพาน
เวลาที่ดีที่สุดสำหรับชมทัศนียภาพ: ตามชื่อจุดชมวิวก็คือช่วงรุ่งอรุณในฤดูใบไม้ผลิ แต่ผมว่าถ้าไม่เน้นอารมณ์ศิลปินมากเวลาไหนฤดูไหนก็น่าจะได้

จุดที่ 3: Autumn Moon on Calm Lake (平湖秋月)


จุดชมวิวนี้อยู่ที่ Bai Causeway ทางทิศเหนือของทะเลสาบ ตามรูปภาพโปรโมทที่ผมเคยเห็นจะเป็นมุมเดียวกับที่ผมถ่ายแต่เป็นเวลากลางคืนที่มีเงาพระจันทร์เต็มดวงสะท้อนลงบนผิวน้ำที่ราบเรียบราวกระจก
เวลาที่ดีที่สุดสำหรับชมทัศนียภาพ: คืนวันไหว้พระจันทร์ในฤดูใบไม้ร่วงซึ่งเชื่อว่าเป็นคืนที่พระจันทร์สวยที่สุด

จุดที่ 4: Lotus Breeze at Crooked Courtyard (曲院風荷)

จุดชมวิวนี้เป็นสวนชื่อว่า Qu Yuan รูปภาพโปรโมทก็จะเหมือนรูปของผมแต่จินตการเอาหน่อยว่ามีดอกบัวเต็มพรึ่บบริเวณแอ่งน้ำ แต่ตอนผมไปเดือนเมษายนฤดูใบไม้ผลิดอกบัวยังไม่บาน
เวลาที่ดีที่สุดสำหรับชมทัศนียภาพ: ควรมาในฤดูร้อนเพราะเป็นช่วงเวลาที่บัวสะพรั่งที่สุด ถ้ามาฤดูอื่นอาจเห็นแต่ตอบัวกุดๆ

จุดที่ 5: Melting Snow on the Broken Bridge (斷橋殘雪)

สะพานนี้อยู่ที่ Bai Causeway ในนิยายพื้นบ้านเรื่องนางพญางูขาว พระเอกเจอรักแรกพบกับนางเอกนางพญางูขาวที่สะพานแห่งนี้ ภาพโปรโมทชวนฝันก็จะมีหิมะเกาะที่สะพาน
เวลาที่ดีที่สุดสำหรับชมทัศนียภาพ: โดยหลักการจะต้องเป็นหน้าหนาวที่มีหิมะตก แต่คงเป็นไปได้ยากเพราะปัจจุบันเมืองหังโจวเต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องรถราเต็มท้องถนน โอกาสจะมีหิมะตกยากมาก

จุดที่ 6: Viewing Fish at Flower Garden (花港觀魚)

จุดชมวิวนี้อยู่ที่สวนสาธารณะทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลสาบ ในสวนตกแต่งไปด้วยต้นไม้ดอกไม้และมีแอ่งน้ำเลี้ยงปลาจำนวนมาก
เวลาที่ดีที่สุดสำหรับชมทัศนียภาพ: เนื่องจากเป็นสวนดอกไม้ก็ควรจะมาในฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูร้อน

จุดที่ 7: Orioles Singing in the Willows (柳浪聞鶯)

รอบๆซีหูจะปลูกต้นหลิวเรียงรายรอบทะเลสาบ (ฝรั่งเรียกต้นหลิวว่า willow) ซึ่งในต้นหลิวรอบทะเลสาบนี้จะมีนกชนิดหนึ่งนิยมมาเกาะ ตามชื่อ orioles เปิดดิกชั่นนารีแปลว่านกขมิ้น แต่ผมไม่แน่ใจว่าจะใช่นกขมิ้นจริงๆรึเปล่า เพราะผมเองก็ไม่เชี่ยวชาญปักษีวิทยาเท่าใดนัก เจ้านก orioles นี้จะส่งเสียงร้องเจื้อยแจ้วไพเราะเสนาะหู จริงๆแล้วจุดนี้น่าจะเรียกว่าเป็นทัศนียเสียงมากกว่าทัศนียภาพ 
เวลาที่ดีที่สุดสำหรับชมทัศนียภาพ: เวลาไหนก็ได้แล้วแต่สะดวก ปัจจุบันนี้เนื่องจากสภาพเมืองหังโจวที่พัฒนาขึ้นจำนวนนกก็คงลดน้อยลง แต่ชาวเมืองหัวใสก็ทำของที่ระลึกออกขายเป็นนกหวีดเลียนเสียงเจ้านก orioles นี้ เวลาเดินชมวิวรอบๆทะเลสายจะได้ยินพ่อค้าขายของที่ระลึกเป่านกหวีด orioles เสียงระงมไปหมด

จุดที่ 8: Sunset Grow over Leifeng Pagoda (雷峰夕照)

เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่กล่าวถึงในนิยายนางพญางูขาว ตามท้องเรื่องนักบวชฝาไห่จอมขมังเวทย์จับนางพญางูขาวมาขังไว้ที่เจดีย์ Leifeng นี้ เจดีย์อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เจดีย์ดั้งเดิมพังไปในช่วงศตวรรษที่ 90 ในปี 2002 ทางการเมืองหังโจวจึงสร้างเจดีย์ขึ้นมาใหม่ ตอนไปปี 2002 ผมยังไม่เห็นน่าจะยังสร้างไม่เสร็จ มาเห็นก็ตอนปี 2008
เวลาที่ดีที่สุดสำหรับชมทัศนียภาพ: ยามค่ำย่ำสนธยา

จุดที่ 9: Evening Bell at Nanping Hill (南屏晚鐘)

อีกหนึ่งทัศนียเสียงริมทะเลสาบซีหู ที่เนินเขา Nanping ทางทิศใต้จะมีวัดชื่อว่า Jingci ยามอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าทางวัดก็จะตีระฆังดังเหง่งหง่าง ด้วยอารมณ์สุนทรีแบบกวีก็ต้องกล่าวว่าการชมอาทิตย์อัสดงเคล้าเสียงระฆังดังก้องกังวาลช่างน่าจับใจเสียนี่กระไร
เวลาที่ดีที่สุดสำหรับชมทัศนียภาพ: ยามเย็น เวลาตีระฆังที่แน่นอนต้องลองถามพระที่วัดดู

จุดที่ 10: Twin Peaks Piercing the Clouds (雙峰插雲)
เป็นจุดชมวิวที่เดียวที่ผมหาไม่เจอ ถึงแม้ไปตามแผนที่แล้วก็ตาม ตามคำเล่าขานทางทิศเหนือของซีหูจะมีเนินเขาสูงอยู่ที่สองลูก ลูกหนึ่งอยู่ที่ทิศตะวันออกเฉียงเหนืออีกลูกอยู่ที่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เดาว่าน่าจะเป็นจุดชมวิวที่ต้องแลไกลๆ เช่น จากฝั่งทิศใต้ของทะเลสาบ
เวลาที่ดีที่สุดสำหรับชมทัศนียภาพ: จินตการว่าน่าจะเป็นยามเช้าที่มีหมอกจางๆ แต่สำคัญที่ต้องหาให้เจอเสียก่อน

10 จุดชมวิวที่กล่าวไปนี้ปัจจุบันอาจจะไม่คลาสสิกเท่าสมัยก่อนเนื่องจากสภาพแวดล้อมเมืองที่เปลี่ยนไปด้วยสภาพตึกรามบ้านช่องและมลพิษ ในปี 1984 ทางการเมืองหังโจวจึงจัดให้ชาวเมืองร่วมกันโหวตหา 10 จุดชมวิวใหม่รอบทะเลสาบซีหู เพื่อสร้างจุดดึงดูดการท่องเที่ยว จุดชมวิวรุ่นใหม่ส่วนมากอยู่กระเส็นกระสายกระจัดกระจายไกลจากทะเลสาบออกไป

การเดินทางไปเที่ยวหังโจวกับกรุ๊ปทัวร์ส่วนมากจะจัดให้นั่งเรือล่องทะเลสาบซีหู ซึ่งจะเห็น Three pools Mirroring the Moon กับ Spring Dawn by Su Causeway ที่สังเกตุเห็นได้ง่าย ส่วนจุดอื่นๆถ้าจะเห็นก็คงไกลๆที่ต้องคอยจ้องสังเกตุเอาเอง

การเดินทางท่องเที่ยวเองรอบๆทะเลสาบสามารถเดินเอาได้ (15 กิโลเอ๊ง)  ตอนปี 2002 ที่ไปเที่ยวผมเดินเที่ยวตามเก็บถ่ายรูปรอบซีหูรวมสามวันนับได้ราวๆสามรอบ แต่ถ้าไม่อยากเมื่อยใช้บริการแท็กซี่ก็ได้ วนรอบทะเลสาบไม่ค่อยไกลค่าโดยสารจึงไม่ค่อยแพง


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

About