วันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

นิราศ@โรแมนติก: เยือกเย็นและร้อนแรงบนยอดมหาวิหารฟลอเรนซ์



เรื่องราวนิราศโรแมนติกที่ผ่านๆมาจะพาไปตามรอยสถานที่ท่องเที่ยวที่ปรากฏในละครหรือภาพยนตร์รักโรแมนติกโดยตลอด แต่ครั้งนี้จะขอฉีกแนวไปตามสูดกลิ่นไอโรแมนติกจากหนังสือนวนิยายรักแทน เชื่อว่าถ้าเป็นคอนิยายแนวเลิฟโรแมนติกย่อมต้องรู้จักนิยายรักญี่ปุ่นที่เขียนออกมาเป็นหนังสือสองเล่มชื่อว่า Blu กับ Rosso แน่นอน  

หนังสือเรื่อง Blu (เยือกเย็น) เขียนโดยนักประพันธ์ชายชื่อท์ซึจิ ฮิโตนาริ ในขณะที่ Rosso (ร้อนแรง) เป็นผลงานของนักเขียนหญิงเอคุนิ คาโอริ ถ่ายทอดเรื่องราวความรักของจุนเซนักศึกษาญี่ปุ่นที่มาร่ำเรียนศิลปะที่เมืองฟลอเรนซ์ (Florence) ประเทศอิตาลีกับหญิงสาวนามว่าอาโออิ


จุนเซกับอาโออิให้คำมั่นสัญญาต่อกันว่าในวันเกิดครบรอบอายุ 30 ปีของอาโออิ (ซึ่งตรงกับวันที่ 25 พฤษภาคมปีค.ศ. 2000) ทั้งสองจะขึ้นมาฉลองกันบนยอดโดมมหาวิหารฟลอเรนซ์ (Florence Duomo) แต่แล้วทั้งคู่มีเหตุต้องเลิกรากันไปก่อนถึงวันนั้น

หนังสือเรื่อง Blu ถ่ายทอดเรื่องราวหลังเลิกรากันผ่านมุมมองอารมณ์ถวิลหาของจุนเซ ในขณะที่ Rosso เล่าเรื่องราวเดียวกันผ่านความรู้สึกอาลัยอาวรณ์ของอาโออิ แล้วให้ลุ้นกันในตอนท้ายว่าทั้งสองจะกลับไปเจอกันบนยอดมหาวิหารฟลอเรนซ์เมื่อถึงวันที่ให้คำมั่นสัญญากันหรือไม่ เสน่ห์ของหนังสือที่ถูกกล่าวขานกันมากก็คือเทคนิคการเล่าเรื่องราวเดียวกันแต่ผ่านมุมมองตัวละครที่ต่างกัน

จริงๆแล้วหนังสือสองเล่มนี้เคยถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ญี่ปุ่นครั้งหนึ่งเมื่อปี 2001 ตั้งชื่อเป็นภาษาอิตาเลียนออกเสียงยากๆว่า Calmi Cuori Appassionati แปลเป็นไทยก็คือ “ระหว่างความเยือกเย็นและร้อนแรง” นำแสดงโดยยูทากะ ทาเคโนะอุจิและนักแสดงสาวฮ่องกงเฉินฮุ่ยหลิน (Kelly Chen)


เกริ่นมาซะขนาดนี้คงเดากันได้แล้วว่าผมจะพาไปเยี่ยมเยือนสถานที่แห่งคำมั่นสัญญาระหว่างจุนเซกับอาโออิ นั่นก็คือยอดโดมมหาวิหารฟลอเรนซ์

มหาวิหารฟลอเรนซ์มีชื่อเป็นทางการว่า Basilica di Santa Maria del Fiore เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 1296 เสร็จสิ้นเมื่อปี 1436 ได้รับการยกย่องว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันดับหนึ่งของเมือง ที่ฟลอเรนซ์จึงมีกฎหมายตราไว้ว่าห้ามสิ่งปลูกสร้างใดๆสร้างสูงกว่ายอดมหาวิหาร


ตัวมหาวิหารสร้างจากหินอ่อนสีขาว เขียวและชมพู 


ส่วนโดมเป็นผลงานของ Fillipo Brunelleschi


ปกติคนไปเที่ยวฟลอเรนซ์จะนิยมขึ้นไปชมวิวจากหอระฆัง (Campanile) ซึ่งสามารถยลความงามของยอดโดมได้ แต่ผมกลับพิสมัยปีนยอดโดมเพื่อสัมผัสกลิ่นอายโรแมนติกมากกว่า


การจะขึ้นยอดโดมจะต้องซื้อตั๋วเข้าชมมหาวิหารก่อน ซึ่งในตั๋วนี้สามารถเข้าชมส่วนต่างๆของมหาวิหารรวมทั้งยอดโดมได้



การขึ้นไปยอดโดมต้องผ่านบันได 463 ขั้น ไม่มีลิฟท์บริการ จะปีนขึ้นไปใช้ได้แค่สองเท้ากับใจมุ่งมั่นเท่านั้นบันไดช่วงแรกๆจะวนรอบโถงโบสถ์สามารถมองลงมาเห็นด้านล่างได้


แต่พอไต่สูงขึ้นไปถึงส่วนหลังคาโดมจะเป็นทางเดินผ่านกำแพงแคบๆ


มีช่องหน้าต่างเล็กๆเจาะให้มองชมวิวภายนอกได้เป็นระยะๆ


งานนี้เล่นเอาเหนื่อยหลายแฮ่กกว่าจะถึงยอด แต่พอเห็นวิวตระการตาแล้วทำเอาลืมเหนื่อยไปซักพัก




เมืองฟลอเรนซ์มุมสูงจากยอดโดม สามารถมองเห็นแลนด์มาร์คสำคัญๆของเมืองได้




บ้านเรือนในฟลอเรนซ์คุมโทนสีออกขาวเหลืองน้ำตาล หลังคาสีส้ม ทำให้ดูคลาสสิก



เงายอดโดมมหาวิหารทาบทับหลังคาบ้านเรือน


หอระฆังชูตระหง่าน



ปลายติ่งยอดโดมเมื่อแหงนมองจากจุดชมวิว


เดินเก็บภาพวิวซักพัก ก็สังเกตเห็นว่าเสาหินอ่อนรอบๆรกตาไปด้วยรอยปากกาขีดเขียนจารึกชื่อของผู้มาเยือน ถึงแม้มีป้ายห้ามติดหราก็ตาม


ไม่รู้ว่าเป็นอิทธิพลจากหนังสือ Blu Rosso รึเปล่า ส่วนมากจะเป็นจารึกชื่อจากคู่รัก เท่าที่เดินๆดูไม่เห็นลายมือภาษาไทย ก็ไม่รู้ว่าคนไทยมือไม่บอนหรือคนไทยไม่นิยมปีนขึ้นมาบนนี้กันแน่


ถึงแม้พื้นที่บนยอดโดมเล็กนิดเดียว ใช้เวลาแป๊บๆก็เดินวนได้ทุกตารางนิ้วแล้ว แต่อุตส่าห์ออกแรงปีนมาขนาดนี้ ไม่อยากรีบร้อนลงไป ก็เลยนึกสนุกลองมโนฉากบนยอดมหาวิหารจากหนังสือเล่นๆ (ตัวอย่างภาพจากภาพยนตร์)


อุปโลกน์กระทาชายนายหนึ่งที่ยืนเกะกะกล้องให้เป็นจุนเซที่ขึ้นมารออาโออิอย่างใจจดใจจ่อ



และแล้วในที่สุดอาโออิก็ปรากฏตัว (พร้อมแม่?)


ก่อนที่ทั้งสองจะลงจากยอดโดมไปด้วยกันอย่างมีความสุข


ระหว่างทางเดินลงก็เห็นว่ากำแพงทางเดินอุดมไปด้วยลายมือขีดเขียนของคนมือซนเช่นกัน



เว็บไซด์ของ Florence Duomo สามารถเช็คเวลาเปิดปิดของโดมและราคาตั๋วเข้าชมได้ที่นี่










3 ความคิดเห็น:

  1. อยากไปจังเลยค่ะ
    นิราศ@โรแมนติก: เยือกเย็นและร้อนแรงบนยอดมหาวิหารฟลอเรนซ์
    ชอบมากค่ะ อ่านตอนมหาลัย ติดงอมแงมเลย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณสำหรับโพสต์ครับ

      ภาวนาให้ความหวังของคุณเป็นจริงสักวันนะครับ

      ฟลอเรนซ์เป็นเมืองที่สวยมาก ขนาดเคยไปแล้วสองครั้งยังอยากไปอีกเลย

      ลบ
  2. ติดมากๆ ยังไม่ม่โอกาสได้ไปเลยค่ะ สักวันจะไปตามรอย

    ตอบลบ

About