วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

บ่ายวันอาทิตย์ที่อินซาดง

ถ้าถามว่าผมชอบถนนคนเดินเส้นไหนในโซลมากที่สุด ผมขอเลือกถนนสายวัฒนธรรมอินซาดง (인사동) เหตุผลที่ชอบก็เพราะอินซาดงเป็นถนนสายที่สะท้อนความคิดของเกาหลีว่าต้องการสื่อให้ชาวต่างชาติมองความเป็นเกาหลีอย่างไร


ผมไปอินซาดงครั้งแรกตั้งแต่ปี 2002 ในการไปเที่ยวเกาหลีใต้ครั้งแรก และเคยไปอีกสองสามครั้งหลังจากนั้น รวมครั้งหลังสุดที่เพิ่งไปตอนปี 2013 สิ่งที่ผมรู้สึกได้ก็คือถนนอินซาดงมีพัฒนาการตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา ครั้งแรกที่ผมไปเยือนถนนจะเน้นวัฒนธรรมเกาหลีเพียวๆ เรียกว่าถนนนี้เหมาะสำหรับคนที่มองหาของฝากของที่ระลึกที่เป็นเกาลี้เกาหลี แต่ปัจจุบันนี้ถนนก็ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมอยู่แต่พัฒนาให้มีความหลากหลายมากขึ้น กลายเป็นถนนที่ไปชิลล์เอ้าท์ได้ถึงแม้คุณไม่ได้คิดจะซื้อของฝากอะไร


สำหรับวันอาทิตย์ถนนอินซาดงจะปิดการจราจรให้เป็นถนนคนเดิน จึงค่อนข้างคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวหรือแม้แต่คนเกาหลีมากเป็นพิเศษ


อินซาดงถูกเรียกว่าถนนสายวัฒนธรรมเนื่องจากอุดมไปด้วยร้านที่ถ่ายทอดศิลปะวัฒนธรรมเกาหลี ไม่ว่าจะเป็น ร้านขายพู่กัน ร้านขายภาพเขียน ร้านขายเครื่องปั้นดินเผา


ร้านขายชุดประจำชาติที่มีการประยุกต์ผ้าฮันบกเป็นสินค้าที่ดูทันสมัยมากขึ้น


ร้านขายขนมหวานดั้งเดิมที่หน้าตาชวนตั้งโชว์มากกว่าชวนกิน


ร้านนี้ปิดป้ายว่าขายเครื่องเทศสำหรับ temple cooking


ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็เริ่มมีร้านสมัยใหม่มาเปิดบนถนนเส้นนี้ ร้านกาแฟสตาร์บัคส์เป็นเจ้าแรกๆที่หาญกล้าเข้ามาปฏิวัติจนถูกกระแสต่อต้านเนื่องจากเห็นว่าเป็นร้านฝรั่งไม่เข้ากับถนนวัฒนธรรมของชาติ ทางร้านจึงแก้ลำโดยทำป้ายร้านเขียนเป็นภาษาเกาหลี (เมื่อสี่ห้าปีที่แล้วที่ผมมา ป้ายร้านไม่มีชื่อภาษาอังกฤษเลย ปัจจุบันมีกำกับเล็กๆไว้ข้างใต้)


ถ้าไม่บอกคงไม่รู้ว่านี่คือแก้วที่ระลึกสตาร์บัคส์


ปัจจุบันจึงมีร้านเครื่องสำอางค์ชื่อดังของเกาหลีมาบุกตลาดอินซาดงเต็มไปหมด แต่ทุกร้านคงคอนเซ็ปต์ชื่อร้านเขียนเป็นภาษาเกาหลีเหมือนสตาร์บัคส์


ตรงกลางๆถนนจะมีตึกสี่ชั้นชื่อว่า Ssamziegil (쌈지길) ซึ่งเปิดเมื่อปี 2004 ภายในตึกจะมีร้านขายของกระจุ๊กกระจิ๊กมากมาย


มาที่ Ssamziegil นี่แล้วต้องไม่พลาดแวะชิมขนมปังอุนจิหรือ ddongbang (똥빵) เป็นขนมปังไส้ถั่วแดงทำเป็นรูปก้อนอุจจาระ


ส่วนชั้นดาดฟ้าบนสุดมีร้านกาแฟคู่รัก (ไม่รู้ว่าชื่อนี้รึเปล่า) ที่คู่รักมักจะมาจิบกาแฟจีบกันและเขียนป้ายอธิษฐานความรักห้อยแขวนตามรอบๆบริเวณร้าน


ตั้งใจถ่ายให้ติดป้ายเยอะๆเข้าไว้ ดันแจ็คพอตเจอป้ายคู่รักคนไทยเข้าพอดี ยังไงก็ขอให้ความรักสมหวังและมีความสุขตลอดไปนะครับ (ขอปิดชื่อไว้หน่อย)


ตามท้องถนนจะเรียงรายไปด้วยร้านค้าและเพิงขายของกินและสินค้าเป็นระยะๆ อย่างร้านแป้งทอดโฮต๊อกเจ้านี้ คนเข้าคิวยาวมาก


ร้านนี้ขายค็อกเทลใส่ถุงกาแฟ


เดินไปเจอร้านขายไอติมรูปร่างแปลกๆ ไม่รู้ว่าคนเกาหลีเรียกชื่อว่าอะไร แต่พอเห็นผมอยากเรียกมันว่า ไอติมไส้อั่ว เพราะตัวโคนเวเฟอร์ทำเป็นขดคล้ายๆลำไส้ แถมร้านยังเอามาแขวนเป็นแพๆเห็นแล้วนึกถึงร้านขายไส้อั่วบ้านเรา


วิธีการทำก็คล้ายไส้อั่ว ก็คือจะฉีดไอศครีมอัดเข้าไปในโคนเวเฟอร์ ส่วนเรื่องรสชาติไอติมเป็นไงไม่รู้เพราะส่วนใหญ่จะได้แต่รสเฝื่อนๆของตัวแป้งเวเฟอร์


ถ้าเดินๆแล้วเกิดหิวขึ้นมา ผมขอแนะนำร้านอาหารประจำของผม ร้านเกี๊ยวชื่อ Sinpo Woori Mandoo (신보우리만두)


ร้านอยู่ที่ชั้นสอง เหตุผลที่ผมชอบร้านนี้เป็นพิเศษเพราะร้านนี้อายุเท่าผมเลย (ส่วนตัวล้วนๆ)


หน้าร้านติดโปสเตอร์ว่าร้านเคยใช้ถ่ายทำซีรี่ย์เรื่อง Brilliant Legacy ที่เคยฉายช่องสามบ้านเราในชื่อ มรดกรักฉบับพันล้านวอน นำแสดงโดยพระเอกสุดฮ็อตอีซึงกิ แต่ไม่รู้ว่าเป็นฉากไหนเพราะไม่เคยดู


เมนูขึ้นชื่อคือบะหมี่เกี๊ยวกับเกี๊ยวนึ่งรวมมิตร


การเดินทางไปถนนอินซาดง
นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสาย 3 สีส้มลงที่สถานี Anguk หรือสาย 1 สีน้ำเงินลงที่สถานี Jonggak ก็ได้







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

About