วันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2556

Postcard from Alaska: Ketchikan เมืองหลวงแห่งปลาซัลม่อน




และแล้วก็มาถึงอะลาสก้า......

หลังจากแล่นออกจากท่าเรือที่แวนคูเว่อร์ วันที่สามของการเดินทางบนเรือรัศมีแสงแห่งทะเล (Radiance of the Sea) ก็มาถึงเมืองแรกของอะลาสก้า นั่นคือเมือง Ketchikan (เค็ทชิแคน)


ถ้าดูจากแผนที่ รูปร่างของรัฐอะลาสก้าจะคล้ายกะทะแบบมีด้าม การล่องเรือเที่ยวอะลาสก้าจะเข้ามาทางด้ามกะทะทางตอนใต้ ซึ่งเมือง Ketchikan อยู่ที่ปลายล่างของด้ามกะทะ


เมือง Ketchikan เปี่ยมไปด้วยสมญานามมากมาย ได้แก่ เมืองหน้าด่านประตูสู่อะลาสก้า (เป็นเมืองใหญ่ที่อยู่ล่างสุดของรัฐ) เมืองหลวงแห่งปลาซัลม่อน (ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่จับปลาซัลม่อนได้เยอะสุด) เมืองหลวงแห่งสายฝน


เรือจอดเทียบท่า Ketchikan เวลาหกโมงเช้า ก่อนเข้านอนในคืนที่สองกัปตันเรือประกาศให้ผู้โดยสารปรับเวลาให้ช้าลงหนึ่งชั่วโมงตาม time zone ของอะลาสก้าเทียบกับแคนาดา

ด้วยความตื่นเต้นที่จะได้เหยียบแผ่นดินอะลาสก้า ผมรีบตื่นนอนเร่งจัดการอาหารเช้าเพื่อลงจากเรือไปสำรวจเมืองด้วยตนเองก่อนที่จะกลับมาร่วมแลนด์ทัวร์ในช่วงสายๆ เป้าหมายหลักของการสำรวจเมืองก็คือย่านดาวน์ทาวน์ ตามแผนที่ที่ได้รับแจกบนเรือย่านดาวน์ทาวน์น่าจะอยู่เบื้องหน้าท่าเทียบเรือเลย


แต่พอลงจากเรือก็ต้องหันรีหันขวางเพราะหน้าตาถนนไม่เหมือนกับแผนที่ ถามไถ่จากคนละแวกนั้นจึงทราบว่าย่านดาวน์ทาวน์ต้องเดินไปอีก 10-15 นาทีเนื่องจากเรือผมจอดที่ตำแหน่งปลายๆท่า

ที่ย่านดาวน์ทาวน์ ใครไปใครมาเมือง Ketchikan ต้องไม่พลาดแชะรูปกับป้ายต้อนรับนี้


ตึกสีสันสดใสในเมือง ถ้าไม่ใช่ร้านค้าก็ร้านอาหาร


หนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของตัวเมือง Ketchikan ก็คือถนน Creek Street ซึ่งในอดีตเป็นย่านโคมแดงของเมือง


บ้านเรือนในถนนนี้เดิมทีเป็นบ้านของหญิงขายบริการ


ถึงแม้ปัจจุบันไม่ได้เป็นแหล่งอย่างว่าแล้ว ตัวบ้านเรือนภายนอกยังคงได้รับการอนุรักษ์ให้เหมือนเดิมเพียงแต่เปลี่ยนมาเป็นร้านขายของที่ระลึกร้านอาหารแทน


ที่เรียกว่า Creek Street เนื่องจากเป็นถนนทางเดินยาวประมาณ 100-200 เมตรเลียบลำธารสายเล็กๆ (ภาษาอังกฤษเรียกว่า creek)


แลนด์มาร์คสำคัญของถนนก็คือบ้านสีเขียวอ่อนที่ชื่อว่า Dolly’s House


ในอดีตเป็นบ้านคุณตัวที่โด่งดังที่สุดของย่านและอยู่ในอาชีพยาวนานที่สุด ปัจจุบันบ้านถูกแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์


เนื่องจากผมไปถึงแต่เช้าพิพิธภัณฑ์และร้านรวงต่างๆยังไม่เปิด


เดินเก็บรูปประมาณชั่วโมงนึง ก็ได้เวลาจ้ำอ้าวกลับเรือเพื่อร่วมแลนด์ทัวร์ล่องเรือชม Misty Fjords อยากรู้ว่าเป็นยังไง โปรดติดตามตอนต่อไป







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

About