หนึ่งในความใฝ่ฝันของผู้ที่เดินทางมาเยือนดินแดนอะลาสก้าก็คือการได้ยลทัศนียภาพธารน้ำแข็ง
(glacier) ที่มักพบเห็นได้ในดินแดนใกล้ขั้วโลก
ว่ากันว่าเฉพาะที่รัฐอะลาสก้าที่เดียวมีธารน้ำแข็งมากกว่า 600 แห่ง
วันที่สี่ของการเดินทางที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เรือ Radiance of the Sea ย่างกรายมาถึงเมืองหลวงของรัฐอะลาสก้าที่มีชื่อว่า Juneau (จูโน่) เรือจอดเทียบท่าตั้งแต่เวลาเจ็ดโมงเช้า
วันนี้ผมเตรียมแผนทัวร์ไว้แล้วว่าถึงเวลาที่จะไปเที่ยวธารน้ำแข็งเสียที เนื่องจากละแวกเมือง Juneau มีธารน้ำแข็งมากมายหลายที่ ผมจิ้มนิ้วเลือกทริปไปเที่ยว Mendenhall Glacier ธารน้ำแข็งชื่อดังที่อยู่ไม่ไกลจากเมือง Juneau
หลังจากทำใจใคร่ครวญหลายรอบ
ผมตัดสินใจทุบกระปุกออมสินทุ่มทุนเลือกทัวร์ไปธารน้ำแข็งโดยทางเฮลิคอปเตอร์ เพราะไม่ใช่แค่จะได้ชมวิวไกลๆเท่านั้นแต่โปรแกรมนี้เฮลิคอปเตอร์จะลงจอดบนธารน้ำแข็งและให้เวลาได้เดินเล่นบนนั้นด้วย
ไหนๆก็มาถึงอะลาสก้าแล้วขอกลับไปคุยว่าชีวิตนี้เคยเหยียบธารน้ำแข็งมาแล้ว
โปรแกรมทัวร์มีชื่อทางการว่า
Mendenhall Glacier by
Helicopter & Guided Walk เป็นหนึ่งในโปรแกรมฮิตติดดาวของจูโน่ วันนึงจะมีทัวร์หลายรอบ
ผมเลือกรอบสิบโมงเช้า เผื่อเวลาช่วงบ่ายไว้เดินสำรวจเมืองต่อ
กฎการขึ้นบินคร่าวๆก็คือไม่อนุญาตให้เอากระเป๋าสัมภาระอะไรติดตัวไปด้วย
ยอมให้เอากล้องถ่ายรูปแขวนคอขึ้นไปได้อย่างเดียว ที่สนามบินสำหรับขึ้นฮ.จะมีล็อกเกอร์ให้ฝากสัมภาระได้
เค้าจะเตรียมรองเท้าเพื่อเดินบนธารน้ำแข็งไว้ให้ซึ่งเป็นรองเท้าแบบเกาะพื้นน้ำแข็งได้ดีกว่าปกติ
ให้สวมทับรองเท้าที่เราใส่ไปเลย
และผู้โดยสารทุกคนจะต้องคาดกระเป๋าบรรจุเสื้อชูชีพไว้ที่เอว
เฮลิคอปเตอร์เป็นแบบขนาดเล็กนั่งได้
4 คนรวมคนขับ การขึ้นบินจะจำกัดน้ำหนักตัวผู้โดยสารแต่ละคนต้องไม่เกิน 250 ปอนด์
แต่ไม่ต้องกังวลถ้าคุณน้ำหนักเกินเค้าก็ให้คุณขึ้นบินได้แต่คุณต้องจ่ายตังค์เพิ่ม
Mendenhall Glacier จะอยู่ห่างจากเมือง Juneau ประมาณ
12 ไมล์เป็นหนึ่งในธารน้ำแข็งที่สามารถเดินทางไปจุดชมวิวโดยทางรถยนต์ได้
(ธารน้ำแข็งส่วนใหญ่จะเข้าไปชมได้ต้องโดยสารทางเรือหรือทางเครื่องบินเท่านั้น)
ธารน้ำแข็งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากการสะสมตัวโดยรวมตัวกันอย่างหนาแน่นและตกผลึกของหิมะซึ่งมักเกิดในบริเวณที่ลาดชันอย่างไหล่เขา ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวมากอย่างบริเวณใกล้ขั้วโลกหิมะที่ตกสะสมในฤดูหนาวจะมีปริมาณมากกว่าที่ละลายไปในฤดูร้อนจีงสะสมเป็นผืนน้ำแข็งหนาบริเวณกว้างใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่มีน้ำหนักกดทับมหาศาลจะค่อยๆเคลื่อนตัวหรือไหลลงตามไหล่เขาอย่างช้าๆตลอดเวลา (วิชาการ)
วันที่มาถึง
Juneau อากาศขมุกขมัวแต่หัววัน
ขณะที่นั่งเฮลิคอปเตอร์ก็มีฝนลงเม็ดปรอยๆ
ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็บินมาถึง
Mendenhall glacier เฮลิคอปเตอร์จะบินวนให้เก็บภาพจากมุมสูงก่อน
ที่ปลายด้านหนึ่งของธารน้ำแข็งเป็นทะเลสาบที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็ง
วนสักพักเฮลิคอปเตอร์ก็ลงจอดบนลานธารน้ำแข็งที่กว้างใหญ่
บนธารน้ำแข็ง
จะมีเจ้าหน้าที่ไกด์พาเดินไปตามจุดต่างๆและอธิบายข้อมูลเกี่ยวกับธารน้ำแข็งให้ฟัง
โชคดีที่ตอนเดินทัวร์ไม่มีฝนตกลงมา
แต่ฟ้าปิดไม่ค่อยมีแดด
ถึงแม้จะใส่รองเท้าพิเศษ
แต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงพื้นผิวลื่นๆของน้ำแข็ง ต้องเดินช้าๆอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ
ไม่เช่นนั้นอาจได้กลับไปคุยว่าลื่นล้มบนธารน้ำแข็งมาแล้ว
เราจะเห็นธารน้ำแข็งมีสีฟ้า
ทั้งที่น้ำแข็งทั่วไปมีสีขาวใส ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากเมื่อแสงตกกระทบผลึกน้ำแข็งของธารน้ำแข็งที่มีความหนาแน่นจะดูดซับสีอื่นหมดยกเว้นสีฟ้าที่จะสะท้อนออกมาทำให้เราเห็นธารน้ำแข็งเป็นสีฟ้า
(ถ้าสะท้อนแสงครบทุกสีก็จะเห็นเป็นสีขาว)
ผู้ที่ตั้งใจจะมาทำน้ำแข็งไสกินที่นี่ก็ลืมไปได้เลย
น้ำแข็งดูสกปรกเหมือนผ่านการเหยียบย่ำมานับไม่ถ้วน
บางช่วงของธารน้ำแข็งมีรอยแตกยาวลึก
แอบภาวนาว่าอย่าเพิ่งมาแยกตัวหรือทรุดถล่มตอนนี้แล้วกัน
ฝุ่นดินนี่ไม่แน่ใจว่าคืออะไร
ผมเดินมาไม่ทันฟังบรรยาย
แต่เห็นนักท่องเที่ยวเอาฝุ่นมาทาหน้า
สงสัยว่าคงมีสรรพคุณทางบำรุงผิวพรรณละมั้ง (แต่ผมไม่ลองเพราะไม่แน่ใจว่าก่อนจะมาถึงผิวหน้าเราได้ผ่านผิวรองเท้าใครต่อใครมาบ้าง)
บนธารน้ำแข็งจะมีเศษหิน
ซึ่งเกิดจากธารน้ำแข็งเคลื่อนตัวเสียดสีกับไหล่เขาจนทำให้เกิดหินแตกหักหล่นมากองบนธารน้ำแข็ง
โปรแกรมใช้เวลารวมประมาณสองชั่วโมงสิบห้านาที
แต่เวลาเดินบนธารน้ำแข็งจริงๆประมาณแค่ 20-30 นาทีเท่านั้น
เจ้าหน้าที่ไกด์ยืนเรียงแถวโบกมือส่งเฮลิคอปเตอร์ที่บินกลับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น