Mt.Rushmore เป็นแลนด์มาร์คที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์ประเทศสหรัฐอเมริกาที่โดดเด่นเทียบเท่าอนุเสาวรีย์เทพีเสรีภาพ (Liberty Statue) เรียกว่าใครเห็นภาพเจ้าภูผาหน้าประธานาธิบดีทั้งสี่ต้องนึกถึงประเทศสหรัฐฯขึ้นมาทันที
แต่จริงๆแล้วสังเกตุว่าไม่ค่อยมีการพูดถึงการท่องเที่ยวสถานที่นี้มากเหมือนอนุเสาวรีย์เทพีเสรีภาพที่นิวยอร์ก สาเหตุหนึ่งน่าจะมาจากทำเลที่ตั้งของ Mt.Rushmore ที่อยู่ในรัฐไม่ค่อยโด่งดังตรงกลางๆประเทศ การเดินทางมาท่องเที่ยวไม่สะดวกนัก ส่วนอีกประการน่าจะเป็นเพราะว่าชาวต่างชาติไม่ค่อยอินกับอนุสรณ์สถานที่ระลึกประวัติศาสตร์ชาติอเมริกาเท่าไหร่
Mt.Rushmore อยู่ในอาณาบริเวณอุทยานแห่งชาติ Black Hills มลรัฐ South Dakota ที่อยู่ตรงกลางๆค่อนไปทางเหนือของประเทศ ส่วนใหญ่คนจะเลือกท่องเที่ยวไป Mt.Rushmore จากเมือง Rapid City
แค่ชื่อเมือง
วิธีเดินทางไปยัง Mt.Rushmore จาก Rapid City ก็คือเช่ารถขับเองหรือซื้อ land tour แน่นอนที่สุดสำหรับผมก็ต้อง land tour เท่านั้น ทัวร์ Mt.Rushmore จะเป็นทัวร์หนึ่งวันโดยรวมกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆในละแวกนั้นอย่าง Crazy Horse Memorial, 1880’s train, Black Hills National Forest เฉพาะในส่วน Mt.Rushmore จะใช้เวลาประมาณครึ่งวันเช้า
สังเกตุว่าเพื่อนร่วมรถทัวร์ส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกันสูงอายุ ผมน่าจะเป็นคนที่อายุน้อยสุดบนรถ ทัวร์ไปถึง Mt.Rushmore ประมาณแปดโมงกว่า คนขับจะแจกคูปองอาหารเช้าเสิร์ฟที่ภัตราคารในบริเวณนั้น ทัวร์จะให้เวลาอิสระประมาณ 3 ชั่วโมงรวมทานข้าวเช้า ก่อนที่จะกลับมาเจอกันที่รถ
จุดชมวิวสำคัญก็คือลาน Grand View Terrace ที่อยู่ตรงข้ามรูปสลักหน้าประธานาธิบดี สามารถถ่ายรูปหน้าตรงได้จะๆ
นอกจากนี้จากลานยังมีเส้นทาง hiking ที่สามารถเดินขึ้นไปถึงบนยอด Mt.Rushmore และวนกลับลงมาที่ลานชมวิวได้ ผมได้ลองเดินไปหน่อยนึงและเช็คแผนที่เส้นทางตามรายทาง หลังจากชั่งใจบวกชั่ง(น้ำหนัก)กายแล้วคิดว่าถ้าเดินให้ครบรอบไม่น่าจะทันเวลาที่เหลืออยู่ ก็เลยล้มเลิกความตั้งใจเปลี่ยนมาเดินฆ่าเวลาที่ร้านกิฟท์ช็อปแทน
เกร็ดข้อมูลการก่อสร้าง Mt.Rushmore
ไอเดียเริ่มต้นที่ปี 1923 ชายที่ชื่อว่า Doane Robinson ซึ่งเป็นนักประวัติศาสตร์ท้องถิ่นที่รัฐ South Dakota ต้องการจะสร้างให้ Black Hills National Park มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวจึงคิดจะสลักยอดเขาแท่งแหลมที่เรียกว่า The Needles ในอุทยาน Black Hills ให้เป็นรูปบุคคลสำคัญระดับท้องถิ่น
Robinson ได้ติดต่อไปที่ช่างแกะสลักชื่อ Gutzon Borglum ซึ่งสนใจรับงานนี้ แต่ Bogrlum เสนอให้แกะสลักรูปประธานาธิบดีเพื่อเป็นแลนด์มาร์คระดับชาติแทน ซึ่ง Robinson ก็เห็นดีด้วย Borglum ยังเห็นว่า The Needles ไม่เหมาะที่จะแกะสลักรูปดังกล่าว จึงเสาะแสวงหาภูผาแกรนิตขนาดใหญ่ใน Black Hills ที่สูงอย่างน้อย 400-500 ฟุต ไม่ถูกยอดเขาลูกอื่นบดบังและต้องหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เพื่อรับแสงแดดได้เต็มที่ (สเปคละเอียดจริงๆ) สุดท้ายมาจบลงที่เลือก Mt.Rushmore งานแกะสลักเริ่มต้นจริงในปี 1927
ความตั้งใจดั้งเดิมของ Borglum คือแกะสลักเป็นรูปครึ่งตัวบน (ตามโมเดลที่จัดแสดงในสตูดิโอระหว่างเส้นทาง hiking) แต่ในปี 1941 ขณะที่แกะสลักส่วนใบหน้าทั้งสี่สำเร็จ Gutzon Borglum ก็เสียชีวิตลง รัฐบาลกลางเองก็ไม่ต้องการสนับสนุนทางการเงินต่อไป ทางสำนักงานอุทยานแห่งชาติจึงขอให้ Lincoln Borglum ลูกชายของ Gutzon ที่มารับช่วงต่อจากพ่อเก็บงานให้เสร็จสิ้นเฉพาะส่วนใบหน้าเท่านั้น การแกะสลักสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 1941 ถึงแม้การแกะสลักไม่เสร็จสมบูรณ์แต่หลายๆคนที่เห็น Mt.Rushmore เวอร์ชั่นไม่สมบูรณ์กลับรู้สึกว่าดูคลาสสิกกว่า
การเลือกประธานาธิบดีที่จะแกะสลักบน Mt.Rushmore หลายคนคิดว่า Borglum เลือกประธานาธิบดีที่โด่งดัง แต่จริงๆแล้วความต้องการของ Borglum คือให้ Mt.Rushmore เป็นอนุสรณ์สถานที่ระลึกประวัติศาสตร์ของชาติไม่ใช่ตัวบุคคล Borglum จึงเลือกประธานาธิบดีที่เป็นตัวแทนแต่ละยุคสมัยของชาติ ได้แก่
ประธานาธิบดี George Washington (ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีระหว่างปี 1789-1797) ซึ่งเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา เป็นยุคสมัยของการกำเนิดชาติ
ประธานาธิบดี Thomas Jefferson (1801-1809) เป็นยุคสมัยของการขยายชาติ เนื่องจากในสมัย Jefferson มีการซื้อดินแดนของชาวอินเดียนแดงพื้นเมืองตรงกลางประเทศทำให้ประเทศสหรัฐฯมีขนาดใหญ่ขึ้นอีกเท่าตัว
ประธานาธิบดี Abraham Lincoln (1861-1865) เป็นยุคสมัยของการรักษาชาติ ในช่วงเวลาที่ Lincoln เป็นประธานาธิบดีเกิดสงครามกลางเมืองระหว่างรัฐทางเหนือและรัฐทางใต้ แต่ในที่สุดประเทศก็ไม่ถูกแบ่งแยกออกเป็นสองส่วน
สุดท้ายประธานาธิบดี Theodore Roosevelt (1901-1909) เป็นยุคสมัยของการพัฒนาชาติ ในสมัยของ Roosevelt มีการขุดคลองปานามาที่เชื่อมต่อมหาสมุทรแปซิฟิกกับแอตแลนติก ทำให้เกิดการค้าพาณิชย์กับประเทศอื่นทั่วโลก
วิธีการแกะสลักหน้าผาไม่ได้ใช้ค้อนกับสิ่วเหมือนแกะสลักรูปปั้นทั่วไป เพราะหน้าผามีขนาดใหญ่ขืนแกะด้วยค้อนกับสิ่วอาจต้องใช้เวลาเป็นชาติ Borglum มีช่างสามชุด ชุดแรกเป็นช่างเจาะจะใช้สว่านเจาะหน้าผาให้เป็นรู จากนั้นช่างระเบิดก็จะเอาดินปืนไปฝังตามรูที่เจาะไว้ แล้วระเบิดหน้าผาให้เป็นโครงหน้าคร่าวๆ สุดท้ายจึงเป็นหน้าที่ของช่างแกะสลักเก็บงานรายละเอียด
การเริ่มแกะสลักต้องระเบิดหินบริเวณพื้นผิวออกไปก่อนจนกว่าจะเจอระดับหินที่มีคุณภาพพอที่จะแกะสลักได้ เนื่องจากหินพื้นผิวมักจะมีรอยแตกหรือไม่จับตัวแข็งพอที่จะใช้แกะสลักได้
งานแกะสลักไม่ได้เป็นไปตามแผนโดยดีเสมอไป อย่างเช่นตอนแรกตั้งใจจะแกะสลักให้ใบหน้า Jefferson อยู่ทางฝั่งซ้ายมือของ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น