วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Postcard from Alaska: Hubbard Glacier วันสุดท้ายกับรัศมี



 
วันที่เจ็ดของการเดินทางล่องเรือสำราญสู่อะลาสก้าซึ่งเป็นวันสุดท้ายบนเรือรัศมีแสงแห่งทะเล (Radiance of the Sea) ตามกำหนดการวันนี้เรือจะไม่ได้จอดเทียบท่าที่เมืองไหน แต่จะล่องไปชมธารน้ำแข็งแห่งหนึ่งชื่อว่า Hubbard Glacier ตอนประมาณ 8 โมงเช้า

ผมแอบมีตารางส่วนตัวไว้แล้วว่าจะตื่นเช้าตรู่เพื่อมาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่อะลาสก้า จึงตั้งนาฬิกาปลุกไว้ก่อนหกโมง จดหมายข่าวชื่อ Compass ที่ทางเรือแจกให้ผู้โดยสารทุกๆวันจะมีบอกเวลาคาดการณ์พระอาทิตย์ขึ้นตกในวันรุ่งขึ้น ทำให้กะเวลาได้


ถึงแม้เดือนมิถุนายนจะเข้าสู่หน้าร้อนของที่นี่ แต่อะลาสก้าก็ยังคงเป็นอะลาสก้า อากาศตอนเช้ามืดหนาวจับจิต จนผมยืนตากลมที่ดาดฟ้าตลอดเวลาเพื่อรอพระอาทิตย์ขึ้นไม่ไหว ต้องคอยแว่บเข้าแว่บออกในร่มเพื่อรับไออุ่นเป็นระยะๆ

ภูเขายอดหิมะยามรุ่งสางตัดกับฟ้าสีส้มทองดูสวยไปอีกแบบ


ในที่สุดพระอาทิตย์ก็โผล่พ้นทิวเขา ชักภาพไว้พอประมาณก็กลับไปนอนต่ออีกซักงีบ


ไฮไลท์การเดินทางของวันนี้คือธารน้ำแข็งชื่อว่า Hubbard Glacier



แต่จะเป็นการชมจากบนเรือเท่านั้นไม่มีการจอดเทียบท่า (docked) หรือลงเรือเล็ก (tendered) แต่อย่างใด



คุณป้ากูรูวิทยากรเที่ยวอะลาสก้าเคยโฆษณาในวันแรกๆไว้ว่า เวลาที่เรือมุ่งหน้าสู่ Hubbard Glacier เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำมาก เพราะเรือจะล่องเข้าไปใกล้ๆเพื่อให้ชมธารน้ำแข็งในระยะประชิด นอกจากนี้อาจจะได้เห็นปรากฏการณ์น้ำแข็งทรุดถล่ม (ice calving) หรือที่ชาวอะลาสก้าเรียกว่า White Thunder เนื่องจากเสียงเวลาน้ำแข็งถล่มฟังคล้ายๆฟ้าร้อง

แต่ขอบอกว่าโฆษณาชวนเชื่อของป้าแกเกินจริง เพราะเรือจอดให้ชมห่างเป็นโยชน์ไม่เฉียดใกล้เลย



แอบเดาแบบเข้าข้างเรือว่าที่เข้าใกล้มากไม่ได้เนื่องจากช่วงต้นฤดูร้อนผืนน้ำบริเวณธารน้ำแข็งยังเป็นน้ำแข็งอยู่เยอะ อาจเป็นอันตรายต่อตัวเรือ ถ้าใครเคยมาเที่ยวช่วงปลายฤดูร้อนอย่างสิงหาหรือกันยาแล้วเรือเข้าใกล้ได้มากกว่านี้ก็ช่วยบอกด้วย




ใช้เลนส์ซูม 250mm แล้วได้แค่นี้


ตอนที่ชมก็ไม่มีน้ำแข็งทรุดถล่มแต่อย่างใด ทุกก้อนอยู่กันปกติสุข



ถึงแม้ไม่ได้ดั่งใจอย่างที่ถูกบิ้วเอาไว้ แต่ทัศนียภาพรอบๆก็จัดว่าสวยงามตระการตาจริงๆ




มุมชมวิวจากห้องฟิตเนส ที่ถูกบดบังด้วยฝูงชน


เรือจอดให้ชมประมาณชั่วโมงกว่าๆก็บ่ายหัวจากไป



หลังจากแล่นออกจาก Hubbard Glacier แล้วกัปตันก็เรียกผู้โดยสารให้ไปรวมกันที่ห้อง auditorium เพื่อฟังระเบียบวิธีการขึ้นจากเรือในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากมีผู้โดยสารเป็นพันๆคน ถ้าไม่มีระบบระเบียบรองรับก็จะยุ่งเหยิงมาก

ช่วงบ่ายก็เป็นเวลาอิสระ มีสนามบิงโกเปิดขึ้นให้ประลองดวงอีกรอบ แต่คราวนี้ผมขอบาย ใช้เวลาเดินรอบๆเรือรัศมีเก็บความทรงจำครั้งสุดท้ายก่อนจะลาจากกัน


ใจจริงแล้วแอบตั้งใจไว้ว่าจะหามุมสงบตามกราบเรือนอนเอกเขนกอ่านหนังสือเคล้าบรรยากาศ แต่อากาศข้างนอกยะเยือกมากแถมมีลมตีตลอด ขอยอมแพ้ย้ายกลับไปอ่านในห้องนอนดีกว่า



 

 
 
 



 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

About