วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Postcard from Alaska: เรื่องเล่าจาก Skagway



ปีค.ศ. 1898 เมือง Skagway เป็นแหล่งชุมนุมของบรรดานักแสวงโชคจากทุกสารทิศที่เดินทางมาเพื่อขุดทอง Klondike แต่สิ่งที่ตามมาด้วยก็คือแก๊งค์อาชญากรที่มาหากิน และหนึ่งในอาชญากรตัวเอ้ของเมืองในยุคนั้นก็คือ Jefferson Randolph Smith


Jefferson Smith เป็นวายร้ายระบือนามตั้งแต่ก่อนย้ายมาอยู่ที่ Skagway ตระเวนก่อคดีฉ้อโกงรีดไถมาแล้วในหลายๆเมืองทั่วอเมริกา หนึ่งในผลงานชิ้นโบว์แดงที่เลื่องลือก็คือคดีกลโกงขายสบู่*ที่เมือง Denver จนทำให้นายสมิทธิ์ได้รับฉายาว่า Soapy (ลื่นไหลจับไม่อยู่เหมือนสบู่)


จนเมื่อปี 1898 ยุคเฟื่องฟูของเมือง Skagway นายสมิทธิ์และผองเพื่อนมิจฉาชีพก็มาปักหลักหากินที่นี่ แรกๆก็เริ่มจากเปิดร้านโทรเลขจอมปลอมต้มตุ๋นเงินชาวบ้าน (ทั้งๆที่เมืองไม่มีสายโทรเลข) มีร้านเหล้าชื่อว่า Jeff Smith’s Parlor ซึ่งใช้เป็นศูนย์กลางบริหารความชั่วของชาวสมิทธิ์แอนด์เดอะแก๊งค์ ต่อมาก็ขยายไปเปิดธุรกิจโรงแรม บ่อนการพนัน บริษัทชิปปิ้ง เอาไว้คอยรีดไถบรรดานักแสวงโชคหน้าใหม่ให้หมดตัว


ในที่สุดบรรดาบรรดาพ่อค้าในเมืองทนไม่ไหว จึงแอบลักลอบประชุมลับเพื่อหาวิธีจัดการนายสมิทธิ์ที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งบริเวณท่าเรือ โดยสั่งให้การ์ดสี่คนพกปืนคอยเฝ้าหน้าประตูไว้ แต่เรื่องก็ระแคะระคายไปถึงหูนายสมิทธิ์จนได้


จอมวายร้ายซึ่งอยู่ในสภาพเมาแอ๋ลากปืนเดินมาที่ร้าน แต่ก็ถูกการ์ดขัดขวางไว้จนเกิดการต่อสู้กัน นายสมิทธิ์ฟาดปืนใส่การ์ดชื่อ Frank Reid ล้มลง พร้อมเล็งปืนยิงเข้าใส่ในจังหวะเดียวกันกับที่ Frank Reid ยิงสวนกลับมา

“ปัง ปัง” กระสุนลั่นจากปากกระบอกปืนของ Frank Reid ตรงเข้าตัดขั้วหัวใจนายสบู่ส่งวิญญาณชั่วร้ายสู่ปรโลกในทันที ในขณะที่กระสุนของสมิทธิ์ก็โดนเข้าตรงเป้ากางเกงของ Frank Reid อย่างจัง (อู้ววว...เสียงร้องจากผู้ฟัง) Frank Reid ทุรนทุรายกับพิษบาดแผลเป็นเวลา 12 วันก่อนสิ้นใจ


ภายหลังจากที่เสียชีวิต ชาวเมืองสดุดีวีรกรรมของ Frank Reid โดยฝังศพไว้ในสุสานประจำเมืองอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติ มีหินจารึกหลุมศพขนาดใหญ่รูปร่างคล้ายอวัยวะที่ Frank Reid สูญเสียไปในการดวลปืน (อันนี้มุกของไกด์นะ)


ในขณะที่ศพนายสมิทธิ์ก็ถูกฝังลวกๆอย่างไม่ใยดีในละแวกเดียวกัน ภายหลังการเสียชีวิตของหัวโจกแก๊งค์ของนายสมิทธิ์ก็ถูกกวาดล้างจนเกลี้ยงเมือง


เมือง Skagway จึงเข้าสู่ความสงบสุขนับจากนั้นมา…The End

********************************************************************************************************************************

หลังกลับจากทัวร์รถไฟเส้นทาง White Pass แล้วผมใช้เวลาช่วงบ่ายทัศนาตัวเมือง โดยเลือกใช้บริการแลนด์ทัวร์ที่ชื่อว่า “Skagway Street Car City Tour”



ความจริงแล้วตัวเมือง Skagway ไม่ค่อยใหญ่เท่าไหร่จะเดินสำรวจด้วยเท้าครึ่งวันก็ทั่วแล้ว แต่ผมอยากลองนั่ง Street Car ซึ่งเป็นหนึ่งในทัวร์เก่าแก่ที่มีมายาวนาน


คำว่า Street Car ในบางทีจะหมายถึงรถราง แต่ที่นี่หมายถึงรถบัสย้อนยุคหน้าตาคลาสสิก


นอกจากรถดูเก่าแก่คลาสสิกแล้ว ไกด์สาวประจำรถก็แต่งตัวในชุดยุค 1898 เช่นกัน


ทัวร์จะเริ่มจากพาขึ้นไปชมวิวเมืองจากเนินใกล้ๆ จุดนี้สามารถเห็น Skagway ได้ทั้งเมือง



ยอดเขาสามยอดที่เรียงราย พร้อมด้วยมุกกัดแขวะของไกด์ว่ายอดเขาลูกกลางยังไม่มีชื่อเพราะสงวนเอาไว้ตั้งชื่อตามประธานาธิบดีอเมริกาคนที่สองที่จะมาเยือนเมือง Skagway (ในประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบันเพิ่งมีประธานาธิบดีอเมริกาเพียงคนเดียวที่เคยมา Skagway ตอนยังดำรงตำแหน่ง)


หลังจากนั้นก็พาไปสุสานประจำเมืองพร้อมเล่าเรื่องราวตำนานการดวลปืนระหว่าง Frank Reid กับ Jefferson Smith


นอกจาก Frank Reid และ Jeff Smith แล้วที่นี่ยังเป็นที่สถิตย์ของร่างไร้วิญญาณนักแสวงโชคอีกหลายคนที่อาศัยอยู่ในยุคตื่นทอง


ทัวร์จบลงที่ย่านเมืองเก่า ปล่อยให้นักท่องเที่ยวเดินเล่นได้ตามอิสระ



บ้านเรือนสีสันสดใสถูกอนุรักษ์ไว้ในสไตล์ยุค 1898




รายล้อมไปด้วยภูเขายอดปกคลุมด้วยหิมะ เป็นบรรยากาศแบบอะลาสก้าที่ถวิลหาจริงๆ



มุมนี้เป็นซิกเนเจอร์ของเมือง


ที่ Juneau มี Red Dog Saloon แต่ที่นี่ต้องเป็น Red Onion Saloon


สถานีรถไฟเส้นทาง White Pass สำหรับคนที่ไม่ได้มากับเรือสำราญต้องมาขึ้นที่นี่


ถ้าคนที่เดินแล้วเกิดเมื่อยสามารถใช้บริการรถ shuttle วิ่งวนในเมืองได้ (แต่ต้องเสียตังค์)


เว็บไซด์ของทัวร์เมือง Skagway โดยรถ streetcar
http://www.skagwaystreetcar.com/

 
*คดีกลโกงขายสบู่ มีอยู่ว่านายสมิทธิ์ทำธุรกิจขายสบู่ในราคาที่แพงเว่อร์โดยโฆษณาว่าในห่อสบู่ของเค้าแต่ละห่อแกะมาจะเจอเงินอาจจะมากหรือน้อยแตกต่างกันไป ลูกค้าคนแรกซื้อไปแกะเจอแบงค์สิบเหรียญ คนที่สองซื้อไปเจอแบงค์ร้อย เท่านั้นแหละชาวบ้านก็แห่มาซื้อสบู่นายสมิทธิ์จนหมดเกลี้ยง แต่ไม่มีใครแกะเจอเงินในห่ออีกเลย ความมาแดงเอาว่าไอ้สองคนแรกเป็นหน้าม้าที่นายสมิทธิ์จ้างมาเล่นละครตบตา












ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

About