หนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางส่วนใหญ่ใฝ่ฝันว่าจะต้องไปเที่ยวซักครั้งในชีวิตก็คืออะลาสก้า (Alaska ) ดินแดนแห่งภูเขาและธารน้ำแข็ง เมื่อวีซ่าอเมริกาสิบปีใกล้จะหมดอายุ ผมเลยตัดสินใจว่าถึงเวลาที่จะต้องเดินทางตามใจฝันเสียที
หลังจากศึกษาข้อมูลการท่องเที่ยวอะลาสก้าพอสมควรแล้ว ผมตัดสินใจเลือกโหมดการเดินทางไฮโซอย่างการล่องเรือสำราญ ฤดูการล่องเรือสำราญเที่ยว
โปรแกรมล่องเรือที่ผมเลือกเป็นของบริษัท Royal Caribbean Cruise ซึ่งจะมีโปรแกรมหลากหลายให้เลือก ทั้งแบบไปแล้ววนกลับมาที่เมืองเดิม หรือแบบไปจากเมืองหนึ่งสิ้นสุดอีกเมือง ผมเลือกแบบไปไม่กลับ...เอ๊ย...ไม่วนกลับ โดยเดินทางจากเมืองแวนคูเว่อร์ (Vancouver ) ประเทศแคนาดาไปสิ้นสุดที่เมืองซูเวิร์ด (Seward) ในอะลาสก้า เรือที่ผมเดินทางมีชื่อเก๋ไก๋ว่า Radiance of the Sea แปลเป็นไทยว่ารัศมีแสงแห่งทะเล
ทริปเริ่มต้นจากการไปขึ้นเรือที่ท่า
พอไปถึงที่ท่าเรือจะต้องผ่านกระบวนการตรวจคนเข้ามืองหรือตม.ของประเทศอเมริกาก่อน เนื่องจากการไปอะลาสก้าก็คือออกจากแคนาดาเข้าประเทศอเมริกา (ตม.ของอเมริกาจะมาตรวจประทับตราตั้งแต่ต้นทางเลย) หลังจากนั้นก็ไม่ต้องผ่านตม.ที่เมืองไหนๆอีกแล้ว
ตอนแรกคิดว่าตารางเวลาขึ้นเรือน่าจะสบายๆ เนื่องจากเปิดให้เริ่มเช็คอินตั้งแต่ 11 โมง ผมเลยไปถึงท่าเรือเกือบบ่ายโมง แต่เอาเข้าจริงกว่าจะผ่านตม.ได้กินเวลาไปเกือบสองชั่วโมงเนื่องจากคนแน่นมาก (ตอนหลังถึงรู้ว่ามีเรือสำราญอีกลำแต่คนละเจ้าที่ออกเดินทางพร้อมกัน) หลังจากผ่านตม.จึงเป็นกระบวนการเช็คอินขึ้นเรือ
เช็คอินเสร็จขึ้นเรือปุ๊บผมตรงรี่ไปที่ห้องพักทันที ของผมเลือกห้องแบบประหยัดจึงไม่มีหน้าต่างหรือระเบียงให้ชมวิว
เรือรัศมีแสงเริ่มออกเดินทางตอนสี่โมงเย็น แต่ก่อนออกเดินทางกัปตันจะประกาศเรียกผู้โดยสารทุกคนไปซ้อมอพยพกรณีเหตุฉุกเฉินตามที่จุดกำหนดไว้
เรือค่อยๆแล่นออกห่างจากเมืองแวนคูเว่อร์ไปเรื่อยๆ
ภาพตึกระฟ้าของเมืองแวนคูเว่อร์เหมือนญาติพี่น้องเพื่อนฝูงที่ยืนโบกมืออำลาส่งนักเดินทางไปอะลาสก้า ค่อยๆเล็กลงๆจนลับสายตาไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น