วันศุกร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2556

นิราศ@โรแมนติก: นัดพบข้ามเวลาที่เกาะอูโด้

กลับมาสู่การเดินทางแบบโหมดโรแมนติ๊กโรแมนติกกันอีกครั้ง คราวที่แล้วหลอกให้ไปตามรอยซีรี่ย์เกาหลีตามสุสานฝังศพไปแล้ว คราวนี้ขอแก้ตัวพาไปตามรอยโรแมนติกเกาหลีของจริงเสียที


ละครหรือหนังโรแมนติกเกาหลีเริ่มโด่งดังในไทยช่วงต้นทศวรรษที่ 2000 ผมเลือกไปย้อนรอยหนึ่งในภาพยนตร์โรแมนติกเกาหลีที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงยุคบุกเบิก นั่นก็คือเรื่อง Il Mare (ออกเสียงตามภาษาอิตาลีว่า อิลมาเร่) ออกฉายเมื่อปี 2000 นำแสดงโดยพระเอกอีจองแจ และนางเอกยัยตัวร้ายจอนจีฮยอน ตั้งชื่อเป็นภาษาไทยว่า ลิขิตรักข้ามเวลาหนังประสบความสำเร็จจนขนาดบริษัท Warner Brothers ซื้อลิขสิทธิ์ไปรีเมกเป็นเวอร์ชั่นฮอลลีวู้ดในชื่อว่า The Lake Houseฉายเมื่อปี 2006 นำแสดงโดยดาราดังอย่างคีอานู รีฟส์และซานดร้า บูลล็อก


หนังบอกเล่าเรื่องรักปาฏิหารย์ข้ามเวลาเมื่อหญิงสาวที่อาศัยอยู่ที่บ้านริมทะเลชื่อ Il Mare ณ ปี 2000 เกิดอยู่ๆสามารถติดต่อทางจดหมายกับชายหนุ่มในปี 1998 ที่อาศัยอยู่ที่เดียวกัน ผ่านทางตู้ไปรษณีย์ของบ้านได้

โลเกชั่นอันดับหนึ่งของหนังก็คือตัวบ้าน Il Mare แต่ผมไม่ได้จะพาไปที่นั่นหรอกครับ แต่จะเป็นหนึ่งในฉากที่ผมประทับใจก็คือการนัดพบระหว่างพระเอกและนางเอกที่อยู่คนละช่วงเวลา โดยนัดเจอกันในวันรุ่งขึ้นของเวลานางเอกซึ่งหมายถึงอีกสองปีของพระเอก


ฉากในหนังถ่ายทอดภาพนางเอกไปรอพระเอกที่ชายหาดแห่งหนึ่งที่เกาะบ้านเกิด ในฉากจะเห็นหาดทรายสีขาวตัดกับน้ำทะเลสองสี ใกล้หาดน้ำจะเป็นสีฟ้าใสถัดออกไปหน่อยเป็นสีน้ำเงินเข้ม


ตอนที่ดูหนังก็แอบสงสัยว่าทำไมน้ำทะเลถึงแยกเป็นสองสีชัดเจนขนาดนี้ ก็เลยพยายามไปสืบเสาะดูว่าสถานที่นี้อยู่ที่ใด และในที่สุดก็ได้มีโอกาสไปเยือนด้วยตัวเองเมื่อปี 2011

ชายหาดที่ปรากฏในฉากนี้เรียกว่า หาดทรายปะการัง (서빈백사) อยู่ที่เกาะอูโด้ (우도해양도립공원) เป็นเกาะเล็กๆที่อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะเชจู


ชื่ออูโด้แปลว่าวัว มีที่มาจากรูปร่างของเกาะ ถ้ามองจากยอดเขาซงซานอิลชูบงที่เชจูจะเห็นเกาะอูโด้รูปร่างคล้ายวัวหมอบ


ที่เรียกว่าหาดทรายปะการังเพราะทรายที่หาดนี้เกิดจากปะการังที่ตายแล้ว ทรายจึงค่อนข้างหยาบคล้ายกรวดและมีความขาวมากทำให้น้ำทะเลสะท้อนสีท้องฟ้าใสได้


ส่วนน้ำทะเลที่เป็นสีน้ำเงินเข้มเกิดจากหินลาวาสีดำที่อยู่ใต้น้ำ เนื่องจากเกาะในละแวกนี้แต่เดิมเป็นภูเขาไฟ เมื่อปะทุแล้วลาวาเย็นตัวลงจะจับตัวเป็นก้อนหินสีดำมะเมื่อมตามหาดหรือพื้นใต้ทะเล


ภาพชายหาดเหมือนกับที่เห็นในหนังเปี๊ยบ แต่อารมณ์โรแมนติกไม่ได้มู้ดเลยเพราะมีนักท่องเที่ยวยั้วเยี้ยไปหมด แถมบางคนยังอุตริถอดเสื้อลงไปเล่นน้ำอีก (ที่เสียอารมณ์เพราะคนถอดดันเป็นผู้ชายนี่สิ)


การเดินทางไปเกาะอูโด้
เริ่มจากเกาะเชจู มีเรือเฟอร์รี่จากท่าเรือซงซานทางทิศตะวันออกของเกาะเชจูไปยังเกาะอูโด้ เรือข้ามฟากเป็นเรือบรรทุกได้ทั้งรถยนต์และผู้โดยสาร ท่าเรือซงซานมีภาษาอังกฤษค่อนข้างจำกัดจำเขี่ย แต่ถ้าใช้กฎ(ตาม)คนหมู่มากก็น่าจะได้ตั๋วไม่ยาก

ตารางเดินเรือเฟอร์รี่ไปเกาะอูโด้สามารถตรวจสอบได้ที่


การเดินทางสัญจรบนเกาะอูโด้
หลังจากขึ้นจากเรือแล้วที่ท่าเรือเกาะอูโด้จะมีรถบัสทัวร์บริการวิ่งตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเกาะ (รวมทั้งหาดทรายปะการัง)  เป็นรูปแบบ Hop-on Hop-off ซะด้วย สามารถลงไปใช้เวลาแวะเที่ยวแต่ละจุดและรอขึ้นรถในรอบถัดๆไปได้ แนะนำให้เช็ครอบกับคนขับให้ดีจะได้จัดสรรเวลากลับไปที่ท่าเรือได้ทัน

ขอปิดท้ายด้วย sound track เพลง Must Say Goodbyeเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษที่ประกอบฉากการนัดพบข้ามเวลาในหนัง

Release me, I know the only way
To reach me, that is the way that it should be
So free me from all your memories
I know we must say goodbye
We must say goodbye…






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

About