กลับมาสู่การเดินทางแบบโหมดโรแมนติ๊กโรแมนติกกันอีกครั้ง คราวที่แล้วหลอกให้ไปตามรอยซีรี่ย์เกาหลีตามสุสานฝังศพไปแล้ว คราวนี้ขอแก้ตัวพาไปตามรอยโรแมนติกเกาหลีของจริงเสียที
ละครหรือหนังโรแมนติกเกาหลีเริ่มโด่งดังในไทยช่วงต้นทศวรรษที่ 2000 ผมเลือกไปย้อนรอยหนึ่งในภาพยนตร์โรแมนติกเกาหลีที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงยุคบุกเบิก นั่นก็คือเรื่อง Il Mare (ออกเสียงตามภาษาอิตาลีว่า อิลมาเร่) ออกฉายเมื่อปี 2000 นำแสดงโดยพระเอกอีจองแจ และนางเอกยัยตัวร้ายจอนจีฮยอน ตั้งชื่อเป็นภาษาไทยว่า “ลิขิตรักข้ามเวลา” หนังประสบความสำเร็จจนขนาดบริษัท Warner Brothers ซื้อลิขสิทธิ์ไปรีเมกเป็นเวอร์ชั่นฮอลลีวู้ดในชื่อว่า “The Lake House” ฉายเมื่อปี 2006 นำแสดงโดยดาราดังอย่างคีอานู รีฟส์และซานดร้า บูลล็อก
โลเกชั่นอันดับหนึ่งของหนังก็คือตัวบ้าน Il Mare แต่ผมไม่ได้จะพาไปที่นั่นหรอกครับ แต่จะเป็นหนึ่งในฉากที่ผมประทับใจก็คือการนัดพบระหว่างพระเอกและนางเอกที่อยู่คนละช่วงเวลา โดยนัดเจอกันในวันรุ่งขึ้นของเวลานางเอกซึ่งหมายถึงอีกสองปีของพระเอก
ฉากในหนังถ่ายทอดภาพนางเอกไปรอพระเอกที่ชายหาดแห่งหนึ่งที่เกาะบ้านเกิด ในฉากจะเห็นหาดทรายสีขาวตัดกับน้ำทะเลสองสี ใกล้หาดน้ำจะเป็นสีฟ้าใสถัดออกไปหน่อยเป็นสีน้ำเงินเข้ม
ตอนที่ดูหนังก็แอบสงสัยว่าทำไมน้ำทะเลถึงแยกเป็นสองสีชัดเจนขนาดนี้ ก็เลยพยายามไปสืบเสาะดูว่าสถานที่นี้อยู่ที่ใด และในที่สุดก็ได้มีโอกาสไปเยือนด้วยตัวเองเมื่อปี 2011
ชายหาดที่ปรากฏในฉากนี้เรียกว่า หาดทรายปะการัง (서빈백사) อยู่ที่เกาะอูโด้ (우도해양도립공원) เป็นเกาะเล็กๆที่อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะเชจู
ชื่ออูโด้แปลว่าวัว มีที่มาจากรูปร่างของเกาะ ถ้ามองจากยอดเขาซงซานอิลชูบงที่เชจูจะเห็นเกาะอูโด้รูปร่างคล้ายวัวหมอบ
ที่เรียกว่าหาดทรายปะการังเพราะทรายที่หาดนี้เกิดจากปะการังที่ตายแล้ว ทรายจึงค่อนข้างหยาบคล้ายกรวดและมีความขาวมากทำให้น้ำทะเลสะท้อนสีท้องฟ้าใสได้
ส่วนน้ำทะเลที่เป็นสีน้ำเงินเข้มเกิดจากหินลาวาสีดำที่อยู่ใต้น้ำ เนื่องจากเกาะในละแวกนี้แต่เดิมเป็นภูเขาไฟ เมื่อปะทุแล้วลาวาเย็นตัวลงจะจับตัวเป็นก้อนหินสีดำมะเมื่อมตามหาดหรือพื้นใต้ทะเล
ภาพชายหาดเหมือนกับที่เห็นในหนังเปี๊ยบ แต่อารมณ์โรแมนติกไม่ได้มู้ดเลยเพราะมีนักท่องเที่ยวยั้วเยี้ยไปหมด แถมบางคนยังอุตริถอดเสื้อลงไปเล่นน้ำอีก (ที่เสียอารมณ์เพราะคนถอดดันเป็นผู้ชายนี่สิ)
เริ่มจากเกาะเชจู มีเรือเฟอร์รี่จากท่าเรือซงซานทางทิศตะวันออกของเกาะเชจูไปยังเกาะอูโด้ เรือข้ามฟากเป็นเรือบรรทุกได้ทั้งรถยนต์และผู้โดยสาร ท่าเรือซงซานมีภาษาอังกฤษค่อนข้างจำกัดจำเขี่ย แต่ถ้าใช้กฎ(ตาม)คนหมู่มากก็น่าจะได้ตั๋วไม่ยาก
ตารางเดินเรือเฟอร์รี่ไปเกาะอูโด้สามารถตรวจสอบได้ที่
หลังจากขึ้นจากเรือแล้วที่ท่าเรือเกาะอูโด้จะมีรถบัสทัวร์บริการวิ่งตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเกาะ (รวมทั้งหาดทรายปะการัง) เป็นรูปแบบ Hop-on Hop-off ซะด้วย สามารถลงไปใช้เวลาแวะเที่ยวแต่ละจุดและรอขึ้นรถในรอบถัดๆไปได้ แนะนำให้เช็ครอบกับคนขับให้ดีจะได้จัดสรรเวลากลับไปที่ท่าเรือได้ทัน
ขอปิดท้ายด้วย sound track เพลง “Must Say Goodbye” เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษที่ประกอบฉากการนัดพบข้ามเวลาในหนัง
Release me, I know the only way
To reach me, that is the way that it should be
So free me from all your memories
I know we must say goodbye
We must say goodbye…
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น