สุภาษิตไทยโบราณที่กล่าวไว้ว่า “คืบก็ทะเล ศอกก็ทะเล” ใช้เตือนใจนักเดินเรือว่าทะเลมีภยันตรายใหญ่หลวงจึงไม่ควรประมาท แต่วลีนี้เหมาะสมที่จะยืมมาใช้บรรยายทัศนียภาพการล่องเรือสู่อะลาสก้าวันที่สองได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่ว่าเส้นทางอันตรายผาดโผนแต่อย่างใด แต่ไม่ว่าจะเหลียวมองไปทางไหนซ้ายขวาหน้าหลังก็เห็นแต่ทะเลอย่างเดียว
วันที่สองบนเรือสำราญรัศมีแสงแห่งทะเล (Radiance of the Sea) ที่กำลังบ่ายหน้าสู่อะลาสก้า ตามกำหนดการวันนี้เรือไม่หยุดแวะจอดที่ไหน โดยจะแล่นผ่านเส้นทางที่เรียกว่า Inside Passage ซึ่งเป็นเส้นทางลัดเลาะชายฝั่งด้านมหาสมุทรแปซิฟิกของทวีปอเมริกา เสันทาง Inside Passage เริ่มต้นจากมลรัฐ
แต่ไม่ต้องเป็นห่วงว่าการใช้ชีวิตบนเรือกลางทะเลทั้งวันจะน่าเบื่อหน่าย ผมอยากมอบรางวัลให้กับคนที่ตั้งชื่อภาษาไทยให้แก่เรือโดยสารประเภทนี้ว่า “เรือสำราญ” เพราะเป็นชื่อที่นิยามคุณสมบัติของเรือได้เป็นอย่างดี เรียกว่าเรือพร้อมจะปรนเปรอความสำราญหลากหลายรูปแบบให้คุณเต็มที่
เริ่มจากอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์มีให้ทานได้ตลอดเวลาตั้งแต่หกโมงเช้าถึงตีหนึ่ง อย่างแย่ที่สุดก็มีขนมปังฮอทดอกให้รองท้อง
ถ้าคุณเป็นพวกชอบการออกกำลังกาย บนเรือจะมีสนามบาสเก็ตบอลขนาดย่อมที่สามารถปรับเป็นสนามบอลรูหนูได้ด้วย
สระว่ายน้ำทั้งของเด็กของผู้ใหญ่
มีโรงละครที่ทุกๆคืนก่อนหรือหลังอาหารเย็นจะมีรายการแสดงโชว์ดัง แต่ทุกวันจะเป็นโชว์ประเภทเดี่ยวไมโครโฟนหรือไม่ก็เกมส์โชว์อเมริกา ผู้ไม่สันทัดมุกขำขันอเมริกันอย่างผมเลยขอผ่าน
ตลอดทุกวันบนเรือจะมีตารางคลาสกิจกรรมให้ผู้โดยสารสามารถเข้าเรียนรู้ได้ เช่น สาธิตการใช้มีดอะลาสก้าแล่ปลาดิบ สอนพับผ้าขนหนูเป็นรูปสัตว์ สอนเต้นลีลาศ ฯลฯ
สำหรับโปรแกรมชีวิตที่ผมวางไว้ ช่วงเช้าผมเลือกไปเข้าฟังการบรรยายข้อมูลเกี่ยวกับอะลาสก้าสองเรื่อง หัวข้อแรกเป็นเรื่องแนะนำของฝากจากอะลาสก้าที่ควรซื้อ ซึ่งจะให้ข้อมูลว่าในแต่ละเมืองที่จะแวะในวันต่อๆไปมีร้านค้าอะไรสินค้าอะไรที่น่าแวะไปเพื่อบรรเทาเงินในกระเป๋า ผู้บรรยายสาวมีวาทะศิลป์ที่ดีมาก พูดจนขนาดทำให้ผมชักอยากลองซื้อเพชรอะลาสก้าเป็นของฝากเลยทีเดียว
อีกช่วงหนึ่งเป็นการบรรยายโดยคู่สามีภรรยาผู้คร่ำหวอดกับการท่องเที่ยวอะลาสก้า มาร่วมแชร์ประสบการณ์ให้นักเดินทางมือใหม่ทราบว่าในแต่ละเมืองมีกิจกรรมอะไรที่น่าสนใจ สถานที่ไหนที่ควรไป
พอช่วงบ่ายหลังอาหารกลางวัน ผมตัดสินใจไปเพิ่มความตื่นเต้นให้ชีวิตนิดนึงกับเกมส์บิงโก ผู้เข้าร่วมวัดดวงจะต้องเสียตังค์ซื้อการ์ดบิงโก ซึ่งมีหลายระดับราคา ยิ่งแพงก็จะยิ่งได้การ์ดหลายใบต่อเกมส์โอกาสที่จะได้บิงโกก็สูงขึ้น ผมขอเลือกเป็นพวกลงทุนน้อย(แต่มักสูง) แน่นอนทีสุดเทพีแห่งโชคย่อมไม่เข้าข้างพวกขี้เหนียว (ไม่ได้แม้แต่ลุ้น)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น