Sintra เสน่ห์เมืองมรดกโลก

Sintra เป็นเมืองในประเทศโปรตุเกส อยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงลิสบอน ถ้าใครไปที่ลิสบอนนิยมจะเจียดเวลาซักวันไปเที่ยวที่ Sintra เสน่ห์ดึงดูดสำคัญของเมืองก็คือปราสาทคลาสสิกสไตล์ยุโรปอย่างปราสาท Pena (Palácio Nacional da Pena) และพระราชวัง Sintra (Palácio Nacional de Sintra) ที่รูปร่างสะดุดตา ความสวยงามบวกประวัติศาสตร์ที่ยาวนานทำให้เมือง Sintra ได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นเมืองมรดกโลก

ตั้งต้นกันที่พระราชวัง Sintra ที่อยู่ในบริเวณตัวเมือง ตัวอาคารสีขาวที่มีจุดเด่นอยู่ที่ปล่องควันที่มีลักษณะคล้ายขวดแชมเปญสองใบตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลัง

บรรยากาศห้องหับภายในพระราชวัง

บางห้องตั้งชื่อตามรูปภาพที่ตกแต่ง เช่น ห้องหงส์ ห้องนกสาริกา ฯลฯ

ประเทศโปรตุเกสเป็นพื้นที่ทวีปยุโรปที่อยู่ใกล้ตอนเหนือของทวีปอัฟริกา ในอดีตจึงมีพวกแขกมัวร์ (ชาวอิสลามที่อาศัยที่โมร็อคโค) ข้ามมาตั้งถิ่นฐาน ซึ่งพระราชวัง Sintra เคยใช้เป็นที่พำนักของชนชั้นปกครองชาวแขกมัวร์จึงมีห้องที่ตกแต่งสไตล์อิสลาม

เฉลยปริศนาว่าอะไรอยู่ในขวดแชมเปญ คำตอบก็คือห้องครัวนั่นเอง

เว็บไซด์ของพระราชวัง Sintra (มีทุกภาษายุโรปยกเว้นอังกฤษ)

http://pnsintra.imc-ip.pt/

อีกหนึ่งสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นของเมือง Sintra ก็คือปราสาท Pena ที่ตั้งตระหง่านเป็นสง่าอยู่บนยอดเขา

ตัวปราสาทดูคล้ายปราสาทเก่าแก่ในเทพนิยาย ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโปรตุเกส

ภายในปราสาทไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป ชักภาพได้แต่บริเวณรอบนอก

สงสัยว่าที่นี่คงได้รับการอนุรักษ์อย่างดียิ่ง แม้แต่คราบดำตามกำแพงด้านนอกยังไม่ถูกเช็ดล้างเลย

การเดินทางไปยัง Sintra

มีรถไฟจากลิสบอนไปถึง Sintra โดยตรง ใช้เวลาประมาณ 40 นาที

ภายในตัวเมืองมีรถบัสสาย 434 ที่วิ่งวนจอดตามสถานที่เที่ยวสำคัญของเมือง รวมถึงทั้งสองที่ข้างต้น

ร้าน Starbucks ร้านแรก

แฟนๆกาแฟสตาร์บัคส์เร่เข้ามาครับ วันนี้จะมาทดสอบดูว่าคุณเป็นแฟนพันธ์แท้ร้านสตาร์บัคส์ขนาดไหน ถ้าคุณคิดว่าเป็นแฟนตัวจริงเสียงจริงก็ลองดูว่าสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับร้านสตาร์บัคส์ต่อไปนี้ได้หรือไม่

คำถามมีอยู่ว่า “ร้านสตาร์บัคส์ร้านแรกบนโลกอยู่ที่ไหน”

ยังมีต่อ “ร้านสตาร์บัคส์ร้านแรกที่เปิดนอกทวีปอเมริกาเหนือ (สหรัฐอเมริกากับแคนาดา) อยู่ที่ไหน”

ยังไม่หมดครับ “ร้านสตาร์บัคส์ร้านแรกที่เปิดในประเทศไทยอยู่ที่ไหน”

ติ๊กต่อก...ติ๊กต่อก...คิดไม่ออกเหรอครับ ยังงั้นมาดูเฉลยกัน

สตาร์บัคส์ (Starbucks) เป็นร้านกาแฟสัญชาติอเมริกันมีต้นกำเนิดที่เมืองซีแอตเทิ่ล (Seattle) มลรัฐวอชิงตัน (Washington) อยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ก่อตั้งโดยบุคคลสามคนได้แก่ Jerry Baldwin, Zev Siegl และ Gordon Bowker เปิดร้านครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 1971 ที่ถนน Western Avenue แรกเริ่มเลยเป็นร้านขายเมล็ดกาแฟและอุปกรณ์คั่วกาแฟเท่านั้น (มาเริ่มขายกาแฟสำหรับดื่มราวปี 1986-1987)

จนถึงปี 1976 ร้านที่ถนน Western Avenue ได้ย้ายมาอยู่ที่ตลาด Pike Place Market และอยู่มาจนถึงปัจจุบันนี้ จึงถือว่าร้านสตาร์บัคส์ที่ Pike Place Market เป็นร้านสตาร์บัคส์ร้านแรกบนโลกนี้ (ถึงแม้ไม่ใช่ทำเลแรกก็ตาม)

ตลาด Pike Place Market เป็นตลาดชื่อดังของเมืองซีแอตเทิ่ล เป็นทั้งตลาดสำคัญของชาวเมืองและแหล่งท่องเที่ยวเนื่องจากประกอบไปด้วยร้านขายสินค้าหลากหลาย ตั้งแต่ของสดยันของที่ระลึกนักท่องเที่ยว

ร้านสตาร์บัคส์ร้านแรกนี้อยู่ที่อาคาร Stewart House ในบริเวณพื้นที่ตลาด

กระจกหน้าร้านจะมีสติ๊กเกอร์ติดบอกว่า “First Starbucks Store” เดินเข้าในร้านหน่อยนึงก็จะเห็นแผ่นทองเหลืองสลักประโยคเดียวกัน

ร้านสตาร์บัคส์นี้จะอนุรักษ์บรรยากาศร้านดังเช่นสมัยก่อนไว้

รวมถึงใช้ตราโลโกและสียุคแรกเลย (สังเกตุว่าไม่ใช่สีเขียวและโลโกไม่เหมือนปัจจุบันเปี๊ยบ)

นอกจากขายเครื่องดื่ม ของที่ระลึกที่นี่ก็ขายดีเป็นพิเศษ เพราะแฟนๆอยากได้ของสะสมไปโชว์ว่าเคยมาเยือนร้านออริจิแล้ว

ร้านมีขนาดเล็ก ไม่มีโต๊ะสำหรับนั่งทานในร้าน มีเคาท์เตอร์ให้ยืนเกาะแกะประมาณ 4-5 ที่เท่านั้น ส่วนใหญ่คนมาซื้อออกไปทานที่อื่น ถ้ามาช่วงวันหยุดหรือเสาร์อาทิตย์ร้านจะแน่นมากจนแถวคิวทะลักออกมานอกร้าน แนะนำว่าถ้าอยากชื่นชมบรรยากาศร้านแบบชิลด์ๆไม่แออัด ควรหลีกเลี่ยงวันหยุดหรือไม่เช่นนั้นมาช่วงเช้าตรู่หรือมืดค่ำไปเลย (ร้านเปิดตั้งแต่หกโมงเช้าปิดประมาณสี่ทุ่ม)

สตาร์บัคส์เริ่มขยายธุรกิจสู่ประเทศอื่นนอกทวีปอเมริกาเหนือเมื่อปี 1996 โดยเปิดสาขาแรกอย่างเป็นทางการที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ร้านสตาร์บัคส์ร้านแรกที่ญี่ปุ่นนี้อยู่ที่ถนน Matsuya-dori ย่านกินซ่า หลังห้าง Matsuya เป็นอาคารสองชั้น

ข้างๆเคาท์เตอร์รับเครื่องดื่มภายในร้านจะแขวนป้ายทองรับประกันว่านี่เป็นสาขาแรกของญี่ปุ่นจริงๆ

ร้านสตาร์บัคส์เริ่มเปิดสาขาในไทยเมื่อปี 1998 โดยสาขาแรกอยู่ที่ห้างเซ็นทรัลชิดลมชั้นล่าง (คนละสาขากับสาขา B2S ชั้น 7 นะครับ) ภายหลังที่ห้างมีการปรับปรุงในปี 2011 ร้านสตาร์บัคส์สาขาแรกของไทยก็หายสาบสูญไป

เหิงเตี้ยน: ฮอลลีวู้ดแดนมังกร

ในทัวร์เหยียบจีนเจ็ดเมืองในห้าวันที่ผมไปตอนปี 2008 มีเมืองเล็กๆอยู่เมืองหนึ่งที่น่าสนใจ เนื่องจากถูกพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ โดยมีธีมท่องเที่ยวสำคัญก็คือโรงถ่ายหนังขนาดใหญ่โตมโหฬารที่จำลองบรรยากาศจีนยุคโบราณไว้สำหรับเป็นโลเกชั่นในการถ่ายทำหนังจีนแนวกำลังภายในหรือย้อนยุค เมืองที่ว่ามีชื่อว่าเหิงเตี้ยน (横店) ชื่อภาษาอังกฤษเขียนว่า Hengdian

โรงถ่ายหนังที่กล่าวถึงมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Hengdian World Studio (横店影视城) นอกจากใช้ถ่ายหนังถ่ายละครแล้วยังเปิดเป็นธีมปาร์คให้แฟนหนังจีนซื้อตั๋วเข้าชมได้ ประกอบไปด้วยโซนต่างๆซึ่งจำลองสิ่งปลูกสร้างหลากยุคสมัยของจีน อาทิเช่น พระราชวังต้องห้ามที่ปักกิ่ง ถนนและร้านรวงย้อนยุคในกวางโจวและฮ่องกง เมืองริมแม่น้ำทางตอนใต้ เป็นต้น

แต่เนื่องจากมีเวลาจำกัดแค่ครึ่งวันคณะทัวร์ผมจึงแวะชมเฉพาะโซนพระราชวังจิ๋นซีจำลอง

พระราชวังจิ๋นซีจำลองนี้เคยถูกใช้ถ่ายทำหนังและละครเรื่องดังๆมาแล้วมากมาย อย่างที่คอหนังจีนน่าจะรู้จักดี ก็ภาพยนตร์เรื่อง Hero ปี 2002 ของผู้กำกับจางอี้โหมว นำแสดงโดย เจ็ทลี เหลียงเฉาเหว่ย จางมั่นอวี้ เป็นหนังแนวกำลังภายในอิงประวัติศาสตร์ เล่าเรื่องแผนการลอบสังหารจิ๋นซีฮ่องเต้ แต่ละฉากสีจัดจ้านเหมาะแก่การใช้โฆษณาโทรทัศน์สีอย่างมาก

ถ้าเป็นฝั่งละครก็ต้องเรื่องเจาะเวลาหาจิ๋นซีของสถานีโทรทัศน์ทีวีบีฮ่องกง นำแสดงโดยพระเอกผิวเข้มกู่เทียนเล่อ ฉายเมื่อปี 2001 ตัวพระราชวังจำลองนี้ใช้เป็นโลเกชั่นพระราชวังของแคว้นฉิน

มุมสะพานโค้งนี้เป็นหนึ่งในมุมยอดนิยมที่ตัวละครมายืนสนทนากัน

ตรอกนี้ปรากฏตอนท้ายเรื่อง ช่วงที่พระเอกและพวกพ้องลอบหนีออกจากวัง

ตัวพระราชวังจิ๋นซีของจริงอยู่ที่เมืองซีอานแต่ถูกเผาวอดวายไปหมดแล้วตั้งแต่ 2000 กว่าปีที่แล้วหลังราชวงศ์จิ๋นล่มสลาย

การเดินทางไปเมืองเหิงเตี้ยน

เมืองใหญ่ที่ใกล้ที่สุดคือหังโจว นั่งรถไฟประมาณ 1 ชั่วโมงไปลงที่เมืองอี้อู (Yiwu, 義烏) จากนั้นต่อรถบัสไปเหิงเตี้ยนอีกประมาณ 45 นาที

เว็บไซด์ของ Hengdian World Studio (ภาษาจีน)

http://www.hengdianworld.com/