วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ทัวร์ไขคดีปริศนากับนักสืบจิ๋วโคนัน – Gosho Aoyama Manga Factory


หลังจากที่ท่องเที่ยวตามรอยทัวร์ไขคดีปริศนากับนักสืบจิ๋วโคนันที่จังหวัดฮิโรชิม่าเสร็จสิ้นแล้ว ผมตั้งใจจะถือโอกาสไปเยี่ยมเยียนบ้านเกิดของการ์ตูนโคนันที่จังหวัดทตโทริ (鳥取) ที่อยู่ทางภาคตะวันตกของประเทศญี่ปุ่นเหมือนกัน


การ์ตูนนักสืบจิ๋วโคนันเป็นผลงานของนักเขียนการ์ตูนชาวญี่ปุ่นชื่อ Gosho Aoyama (青山 剛昌) ซึ่งมีบ้านเกิดอยู่ที่เมือง Hokuei (北栄町) จังหวัดทตโทริ หลังจากที่การ์ตูนโคนันดังระเบิด จึงมีการสร้างพิพิธภัณฑ์ที่แสดงผลงานอาจารย์โกโชที่เมืองบ้านเกิด โดยใช้ชื่อว่า Gosho Aoyama Manga Factory (青山剛昌ふるさと館)  คนไทยนิยมเรียกง่ายๆว่าพิพิธภัณฑ์โคนัน

สถานีรถไฟของเมือง Hokuei ที่อยู่ใกล้พิพิธภัณฑ์มีชื่อว่าสถานีรถไฟ Yura (由良駅) ปัจจุบันถูกเรียกกันในอีกชื่อว่าสถานีรถไฟโคนัน


รถไฟที่เดินทางไปที่สถานียูระมีบางขบวนที่เพ้นท์รูปการ์ตูนโคนันไว้ที่ข้างตู้ขบวน (แต่คันที่ผมนั่งไปและกลับไม่มี)


เมื่อลงรถไฟเหยียบสถานีก็อบอวลไปด้วยกลิ่นโคนัน บู๊ทขายตั๋วรถไฟ ตู้ล็อกเกอร์ ม้านั่ง เพดาน มีแต่ภาพการ์ตูนโคนันเต็มไปหมด



ด้านนอกข้างๆสถานีรถไฟจะมีอนุสาวรีย์โคนันในท่ายืนชี้นิ้ว “คนร้ายตัวจริงคือนายนั่นแหละ” แต่เดิมเมือง Hokuei โด่งดังเรื่องแตงโม แต่ปัจจุบันถูกเจ้าหนูโคนันแย่งซีนไปหมด


ความโด่งดังของโคนันทำให้ทุกที่ทุกทางในเมืองมีแต่โคนันๆๆ


ถนนที่เดินไปพิพิธภัณฑ์เปลี่ยนชื่อเป็น Conan-dori สะพานข้ามแม่น้ำระหว่างทางก็ตั้งชื่อว่า Conan-bashi


เส้นทางจากสถานีรถไฟยูระไปพิพิธภัณฑ์เป็นระยะทางประมาณ 1.8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินร่วมๆครึ่งชั่วโมง ตลอดทางจะมีป้ายคอยบอกระยะทางที่เหลือเป็นระยะๆ


ข้างทางจะปักหลักกิโลทำเป็นรูปปกหนังสือการ์ตูนโคนันแต่ละเล่มเรียงรายไป


นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นให้แวะถ่ายรูปตลอดเส้นทางเดิน





ทางไปพิพิธภัณฑ์จะต้องข้ามสะพาน เมือง Hokuei เป็นเมืองเล็กๆจึงไม่มีตึกสูง ส่วนใหญ่เป็นบ้านเรือนสูงไม่เกินสองสามชั้น




เดินๆไป ทัศนียภาพบ้านเรือนสองข้างทางกลายเป็นทุ่งโล่งๆ


ตัวพิพิธภัณฑ์อยู่ข้างทุ่งเกษตรอะไรซักอย่าง สัญลักษณ์ที่โดดเด่นของตัวพิพิธภัณฑ์ก็คือปล่องไฟที่ดูคล้ายโรงงาน (จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกพิพิธภัณฑ์ว่า Factory)


ในที่สุดก็ดั้นด้นมาถึงพิพิธภัณฑ์ Gosho Aoyama Manga Factory


ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์มีรถโฟล์คเต่าสีเหลืองของด็อกเตอร์อากะซะจอดอยู่


รูปปั้นกลุ่มนักสืบเยาวชนด้านหน้าทางเข้า


พิพิธภัณฑ์ไม่ค่อยใหญ่นักมีสองชั้น ใช้เวลาเดินไม่เกินชั่วโมงก็ทั่วแล้ว


ชั้นล่างเมื่อเข้าไปแล้วจะเป็นโซนที่จัดแสดงประวัติของอาจารย์โกโช เช่น โชว์สมุดวาดเขียนของอาจารย์สมัยเด็กๆ เป็นต้น


ผลงานของอาจารย์โกโชนอกเหนือจากนักสืบจิ๋วโคนันก็มี การ์ตูนจอมโจรคิด แฟนการ์ตูนโคนันรู้จักเป็นอย่างดีเนื่องจากมาเป็นแขกรับเชิญในการ์ตูนโคนันอยู่บ่อยๆ


อีกเรื่องชื่อว่า YAIBA (แต่ไม่ใช่หน้ากากใยบะที่ชอบพูดถึงในการ์ตูนโคนันนะ) เรื่องนี้ไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไหร่


ในบริเวณนี้มีรองเท้าเพิ่มพลังขนาดยักษ์ตั้งโชว์อยู่


มีห้องทำงานจำลองที่อาจารย์โกโขใช้สร้างสรรค์ผลงาน


คัทเอาท์รูปอาจารย์โกโชยืนอยู่หน้า Hall of Fame ของบรรดานักสืบชื่อดัง (ผมรู้จักแค่เชอร์ล็อก โฮล์มส์กับเออร์คูล ปัวโรต์สองคน)


ห้องสมุดสะสมการ์ตูนโคนันที่ตีพิมพ์ในหลายๆประเทศทั่วโลก


ฉบับแปลภาษาไทย


โมริ โคโกโร่ยืนอยู่นี่เอง


พระ-นางของเรื่อง คุโด้ ชินอิจิกับโมริ รัน


โซนถัดมาก็น่าสนใจเพราะเป็นโซนแสดงนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ของด็อกเตอร์อากะซะ


ชิ้นแรกคือโบหูกระต่ายเปลี่ยนเสียง วิธีเล่นก็คือกดปุ่มสี่เหลี่ยมสีเขียวๆแล้วพูดผ่านไมค์ที่ติดอยู่กับหูกระต่าย เสียงจะออกมาทางลำโพงด้านหน้า ถ้าต้องการเปลี่ยนเสียงให้หมุนปุ่มกลมๆทางขวามือ จริงๆแล้วมันจะปรับความทุ้มความแหลมของเสียงเท่านั้นเอง


อีกหนึ่งสิ่งประดิษฐ์ที่จำลองขึ้นมาก็คือสเก็ตบอร์ดพลังแสงอาทิตย์ วิธีเล่นก็ขึ้นไปยืนบนสเก็ตบอร์ดใช้เท้าเหยียบปุ่มสีดำบนบอร์ด เสร็จแล้วจอภาพจะขึ้นทัศนียภาพของเมือง Hokuei ทำให้รู้สึกเหมือนว่าเรากำลังขี่สเก็ตบอร์ดไปตามถนนหนทางเมือง ซึ่งเราสามารถบังคับให้ไปซ้ายไปขวาได้


โอ๊ะ..ยินกับว้อดก้าแอบยืนซุ่มอยู่ตรงนี้เอง


โซนถัดมาจะจัดแสดงทริคอุบายบางทริคที่บรรดาคนร้ายใช้ในการ์ตูน


อันนี้เป็นอุบายห้องปิดตาย


ทริคนี้ดูคุ้นๆ เป็นตอนที่ทำให้ศพโผล่มาบนทางเดินในพริบตา


ชั้นสองจะมีห้องเกมส์ให้นั่งเล่นเพลินๆ


มีโปสเตอร์เวอร์ชั่นหนังใหญ่ติดเรียงรายตามผนัง


โรงละครหุ่นกระบอก มีการแสดงเป็นรอบๆ


นอกจากนี้ชั้นสองยังเป็นนิทรรศการจัดแสดงภาพวาดภาพถ่ายเกี่ยวกับโคนันที่ชนะการประกวด

บริเวณในอาคารพิพิธภัณฑ์ยังมีร้านขายของที่ระลึกเกี่ยวกับโคนันที่หาซื้อได้ที่นี่ที่เดียว

การเดินทางไปที่สถานียูระ
จากเมืองทตโทรินั่งรถไฟสาย JR San-in ตรงไปที่เมืองยูระใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

ถ้าเดินทางจากเมืองโอคายามะ (Okayama) นั่งรถไฟสาย Yakumo ลงที่สถานี Yonago แล้วเปลี่ยนเป็นสาย JR San-in รวมๆใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง

ถ้าเดินทางจากเมืองฮิเมจิ (Himeji) นั่งรถไฟสาย Super Hakuto ลงที่สถานี Kurayoshi แล้วเปลี่ยนเป็นสาย JR San-in รวมๆใช้เวลาประมาณ  2 ชั่วโมงครึ่ง

เว็บไซด์ของ Gosho Aoyama Manga Factory









วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ทัวร์ไขคดีปริศนากับนักสืบจิ๋วโคนัน – ภาคฮิโรชิม่า


ความเดิมตอนที่แล้ว: ผมซื้อบัตร JR Pass รุ่นพิเศษเพื่อท่องเที่ยวในจังหวัดฮิโรชิม่าตามรอยการ์ตูนนักสืบจิ๋วโคนันเพื่อเสาะหาเบาะแสไขคดีปริศนา ผมได้เดินทางไปที่เกาะมิยาจิม่าเพื่อเก็บเลขรหัสลับได้แล้วสามตัวและประทับสแตมป์สี่ตรา เหลือตามล่าเลขรหัสลับอีกหนึ่งตัวกับสองสแตมป์ที่ฮิโรชิม่า (広島) สุดท้ายแล้วจะเฉลยตัวคนร้ายยังไงต้องติดตามกัน


หลังจากบรรลุภารกิจในการเก็บเลขรหัสลับกับตราสแตมป์ที่เกาะมิยาจิม่าแล้ว ผมใช้เวลาในช่วงเย็นก่อนออกจากมิยาจิม่าเดินเล่นที่ถนน Omotesando ด้านหน้าวัด Itsushima ถนนเส้นนี้ถือว่าเป็นถนนช็อปปิ้งหลักของเกาะ ใครไปใครมาต้องแวะกินช็อปชิลล์ที่นี่


สินค้าที่ระลึกอันดับหนึ่งของมิยาจิม่าคือทัพพีไม้


กลางๆถนนจะมีทัพพีไม้ยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งโชว์


ถ้าเป็นของกินอันดับหนึ่งก็ต้องเจ้าขนมที่ชื่อว่า momiji manju (もみじ饅頭) ซึ่งเป็นขนมรูปร่างใบเมเปิ้ลสอดไส้ถั่วแดง


ปัจจุบันได้ถูกพัฒนาให้มีไส้หลากหลาย เช่น ชาเขียว ช็อกโกแลต คัสตาร์ด สตอเบอร์รี่ เป็นต้น (แต่ไม่มีร้านไหนทำรสเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์แห่งมิเซ็นตามในการ์ตูนโคนัน)


นอกจากเพิ่มไส้หลากหลายแล้วบางร้านยังทำรูปลักษณ์ให้ชวนซื้อด้วย อย่างลาย Hello Kitty เอาใจคอแนวคิขุ


ของกินขึ้นชื่ออีกอย่างที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงที่นี่ก็คือหอยนางรมปิ้งสดๆ


ของกินที่เป็นแท่งยาวๆคล้ายฮ็อทดอกนี้เรียกว่า Nigiri Ten ทำจากเนื้อปลา มีหลากหลายรสชาติให้เลือกจากส่วนผสมอย่างอื่น เช่น หมึกยักษ์ ปลาไหล กุ้ง เบค่อน ฯลฯ


ของกินอีกชนิดที่เป็นที่นิยมในหลายๆเมืองคือลูกชิ้นปลา แต่ที่พิเศษที่มิยาจิม่าก็คือทำเป็นรูปใบเมเปิ้ล มีหลากหลายรสชาติให้เลือกเช่นเดียวกัน


สำหรับแฟนๆโคนัน แนะนำให้แวะชิมซาละเปาไส้ปลาไหลสับกับเนื้อสับที่ร้านนี้ เป็นร้านโมริ โคโกโร่ชวนชิม (ปรากฏในการ์ตูนแว๊บๆ)


ตอนไปถึงไส้ปลาไหลสับขายหมดแล้ว เหลือแต่ไส้เนื้อสับ


หลังจากใช้เวลาหนึ่งวันที่มิยาจิม่าทำภารกิจตามรอยโคนันไขคดีปริศนาไปแล้ว วันรุ่งขึ้นผมตั้งใจที่จะเก็บเลขรหัสลับและตราสแตมป์ที่เหลือให้หมด

การเดินทางท่องเที่ยวในฮิโรชิม่าสามารถใช้รถ Loop Bus ที่ชื่อว่า Meipuru (ก็คือเสียงคำว่าเมเปิ้ลในภาษาอังกฤษนั่นเอง) เนื่องจากสามารถใช้ JR Pass ขึ้นได้ฟรี รถมีสองสายสีแดงและสีเขียว แต่สถานที่ที่ผมต้องไปอยู่บนเส้นทางสายสีแดงอย่างเดียว


ผมขึ้นรถที่หน้าสถานีรถไฟฮิโรชิม่า ป้ายจะอยู่ที่ทางออกฝั่งชินคันเซ็น รถ Meipuru สายสีแดง ตัวรถสีแดงล้วนมีสัญลักษณ์ใบเมเปิ้ลด้านหน้า


ป้ายรถเมล์ Meipuru หน้าตาอย่างนี้


สถานที่แรกที่เดินทางไปเก็บสแตมป์ก็คือสวน Shukkei-en (縮景園) แท่นแสตมป์อยู่ใกล้ที่ขายตั๋ว ไหนๆมาถึงแล้วก็แวะเข้าชมหน่อย


มุมนี้เป็นมุมมหาชน ใครมาก็ต้องถ่ายเจ้าสะพานหินนี้


หลังจากนั้นก็นั่งรถบัส Meipuru สายสีแดง ไปต่อที่ Hiroshima Museum of Art (ひろしま美術館) ที่อยู่ใกล้ปราสาทฮิโรชิม่า


ที่นี่มีเลขรหัสลับที่สี่ตัวสุดท้าย


เป็นอันว่าผมเก็บเลขได้ครบทั้งสี่ตัวแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าจะเอาตัวเลขไปใช้ทำอะไร แต่ดูเหมือนว่าผมต้องไปที่สถานที่สุดท้ายคือปราสาทฮิโรชิม่า (Hiroshima Castle, 広島城) ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม


พอไปถึงปราสามก็มองหาป้ายโคนันไม่เจอเลย ลองถามที่บู๊ทขายตั๋วของปราสาท เค้าบอกว่าให้เข้าไปในปราสาท คนที่ถือบัตร JR Pass รุ่นโคนันเข้าได้ฟรีไม่ต้องเสียตังค์

ขึ้นไปถึงชั้นสามก็เห็นป้ายบอกทางชี้ไปทางขวา


เดินไปตามป้ายก็เห็นตู้นี้ตั้งอยู่สุดทาง


เห็นแป้นกดรหัสก็ถึงบางอ้อแล้วว่าต้องใช้เลขรหัสลับสี่ตัวเพื่อเปิดตู้ ตอนนั้นแอบคิดว่าในตู้คงจะเฉลยคนร้ายตัวจริง


แต่พอเปิดออกมากลับปรากฏว่าเป็นเบาะแสสุดท้าย เดาว่าเป็นเบาะแสเกี่ยวกับแรงจูงใจในการก่อคดี (เกี่ยวกับเจ้าคำว่า KA-JI นี่แหละ) ทำเอางงงวยว่าแล้วเค้าจะเฉลยตัวคนร้ายยังไง



นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวเมืองฮิโรชิม่าบนยอดปราสาทได้




ทัศนียภาพรอบนอกปราสาทก็สวยงามใช่ย่อย



ถึงแม้เก็บรหัสลับครบแล้ว ผมยังเหลือตราสแตมป์สุดท้ายซึ่งอยู่ที่ Hiroshima Manga Library (広島市まんが図書館)


ที่นี่เป็นห้องสมุดหนังสือการ์ตูน


ตราสแตมป์จะอยู่ภายในอาคารชั้นล่าง ห้องสมุดอยู่ที่ชั้นสอง คอการ์ตูนสามารถมานั่งอ่านฟรีๆได้ทั้งวัน


เป็นอันว่าผมเก็บเลขรหัสลับและตราสแตมป์ได้ครบถ้วนหมดแล้ว


ก็บ่ายหน้ากลับไปสถานที่สุดท้ายสถานีรถไฟฮิโรชิม่า


ผมขึ้นไปที่เคาน์เตอร์ Information ที่ชั้นสองฝั่งทางออกชินคันเซ็น ที่ผมเคยมาถามข้อมูลไปเมื่อวาน


พอเปิดหน้าแสดงหลักฐานที่เราเก็บรหัสลับและตราสแตมป์ครบ เค้าก็ปั้มตรายางในช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆหน้าสองและให้ของที่ระลึกกับเอกสารมาแผ่นหนึ่ง


ปรากฏว่าของที่ระลึกเป็นทัพพีไม้พิเศษรุ่นโคนัน ส่วนแผ่นเอกสารที่ให้มาเป็นการเฉลยคนร้าย ด้านบนจะอธิบายอุบายที่ใช้ในการก่อคดี ด้านล่างจะมีรูปและชื่อคนร้ายตัวจริง (ขออนุญาตบังไว้เพื่ออรรถรส)


เป็นอันว่าทัวร์ไขคดีปริศนากับนักสืบจิ๋วโคนันก็จบลงได้ด้วยดี เรามาฉลองกันด้วยอาหารขึ้นชื่อของฮิโรชิม่า นั่นคือ โอโคโนมิยากิ (お好み焼き) คนญี่ปุ่นบ้างเรียกว่าพิซซ่าบ้างก็ว่าแพนเค้ก


คราวหน้าโปรดติดตามตอนพิเศษที่ผมจะพาไปบุกถึงบ้านเกิดของการ์ตูนโคนัน

เว็บไซด์การท่องเที่ยวฮิโรชิม่า












About